สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ว่า บรรดาผู้สันทัดกรณีเตือนว่า นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ อาจทำให้งบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้น และเส้นทางการคลังจะไม่ยั่งยืน

ทั้งนี้ สำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐ (ซีบีโอ) ระบุในรายงานว่า เนื่องจากระดับการใช้จ่ายบังคับและต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น แซงหน้าการเติบโตของรายได้ ขณะที่หนี้สาธารณะของประเทศ มีแนวโน้มจะะพุ่งสูงขึ้น ในช่วงปี 2568-2578

มีการคาดการณ์ว่าการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลาง จะสูงขึ้นถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 65.2 ล้านล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ การประมาณการของซีบีโอระบุว่า การขยายเวลาการลดหย่อนภาษี จะทำให้เกิดการขาดดุลเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 137 ล้านล้านบาท) ภายในช่วงทศวรรษหน้า ซึ่งหมายความว่า ผู้กำหนดนโยบายอาจต้องหาวิธีชดเชยผลกระทบ เช่น การลดการใช้จ่าย

นอกจากนั้น รายงานระบุว่า จำนวนหนี้ของรัฐบาลกลางที่อยู่ภายใต้ขีดจำกัด โดยรวมจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะแตะระดับประมาณ 59.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,035 ล้านล้านบาท) ในปี 2578

อนึ่ง มีรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการในเดือนนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลกลาง และแม้สภาคองเกรสเคยมีมติระงับเพดานหนี้ เมื่อช่วงกลางปี 2566 แต่เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการฟื้นเพดานหนี้ และกำหนดไว้ที่ 36.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,238 ล้านล้านบาท).

เครดิตภาพ : AFP