สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 78 รายการ ในพิธีซึ่งจัดขึ้นที่สนามกีฬาในร่ม สเตเดียม วัน ในกรุงวอชิงตัน ยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหาร 78 รายการ ที่ลงนามโดยผู้นำคนก่อนหน้า คือประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งคำสั่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ การทำงานภายในทำเนียบขาวและหน่วยงานรัฐ


ขณะเดียวกัน ผู้นำหรัฐคนใหม่ลงนามในคำสั่งอีก 7 รายการ รวมถึง การนำสหรัฐออกจากการเป็นหนึ่งในภาคีความตกลงปารีส ฉบับปี 2558 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประชาคมระหว่างประเทศ ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แจกปากกาให้กับประชาชน หลังเสร็จสิ้นการลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ที่สนามกีฬาสเตเดียม วัน ในกรุงวอชิงตัน


ทั้งนี้ ทรัมป์เคยนำสหรัฐออกจากข้อตกลงดังกล่าวมาแล้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ไบเดนยกเลิก แล้วนำสหรัฐกลับเข้าร่วมเป็นภาคี


นอกจากนี้ ทรัมป์ลงนามในคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานสังกัดรัฐบาลกลางทุกคน ต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานทันที การระงับจ้างงานเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ยกเว้นทหารและหน่วยงานอีกไม่กี่แห่งเท่านั้น โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ จนกว่าผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาครบทุกคน


ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ห้ามหน่วยงานออกคำสั่งเพิ่มเติม จนกว่าผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาครบทุกคน และการสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทุกแห่ง ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ


อีกทั้งยังมีคำสั่ง “ฟื้นฟูเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” และ “การยุติการใช้อำนาจรัฐเป็นอาวุธ” ห้ามการใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือ เพื่อเล่นงานหรือโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของรัฐบาลชุดก่อน.

เครดิตภาพ : AFP