สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่าประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีกฎอัยการศึก ซึ่งมีการประกาศระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้นำเกาหลีใต้ต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ ตามมติถอดถอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ยุนปรากฏตัวต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะจำเลย ซึ่งเริ่มไต่สวนคดีนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยศาลมีเวลานานสูงสุด 180 วัน นับตั้งแต่วันที่สภามีมติถอดถอน ว่าจะเห็นชอบหรือคัดค้าน โดยการเห็นชอบหมายถึง การที่ยุนต้องพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และต้องมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ภายใน 60 วัน ส่วนการคัดค้าน เท่ากับเป็นการคืนตำแหน่งให้แก่ผู้นำเกาหลีใต้ ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนครบวาระในปี 2570

ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวต่อศาลในช่วงหนึ่ง ว่ามีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม และมีความมุ่งมั่นบริหารบ้านเมืองตามแนวทางดังกล่าว นับตั้งแต่รับตำแหน่ง เมื่อปี 2565 และเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญพิจารณาคำให้การของเขาตามหลักการด้วย
ขณะที่ผู้สันทัดกรณีด้านการเมืองเกาหลีใต้มองว่า การที่ยุนขึ้นศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรก หลังปฏิเสธมาแล้วสองครั้ง อาจมีนัยที่สื่อถึงการต้องการความเห็นใจจากศาลสูงสุด และหวังดึงคะแนนนิยมจากประชาชน แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ไม่น่าช่วยได้มากนัก เมื่อประเมินจากการที่ ยุนปฏิเสธให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน จนศาลต้องออกหมายจับ และควบคุมตัวผู้นำเกาหลีใต้ไว้ที่เรือนจำ
นอกจากนี้ มวลชนฝ่ายสนับสนุนผู้นำเกาหลีใต้ยังก่อเหตุบุกรุก และทำลายทรัพย์สินของศาลแขวงตะวันตกกรุงโซล ถึงขั้นที่ทีมทนายของยุนยอมรับว่า อาจส่งผลต่อการพิจารณาคดีในอนาคต.
เครดิตภาพ : AFP