เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 22 ม.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ กทม. หลังวันนี้ ค่าฝุ่นสูงอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 เขต คือ เขตหนองแขม บางกอกน้อย บางขุนเทียน ภาษีเจริญ ทวีวัฒนา และบางบอน ขณะที่พื้นที่เขตอื่นๆ อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ว่า วันนี้สถานการณ์ PM 2.5 ยังคงสูง คาดสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากภาคการจราจร เนื่องจากในบางเส้นทางมีการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้งสายสีส้มและสีม่วงใต้
รวมถึงจุดเผาทั่วประเทศที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 67 โดยเฉพาะในภาคตะวันออก และภาคกลาง ประกอบกับสภาพอากาศที่ปิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการติดตามการพยากรณ์สภาพอากาศคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) สถานการณ์จะดีขึ้น การระบายอากาศคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สถานการณ์ฝุ่นดีขึ้นวันที่ 23-24 ม.ค. กทม. จะออกประกาศ กรุงเทพมหานคร ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ที่ไม่ได้ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) เข้าพื้นที่ชั้นใน (วงแหวนรัชดาภิเษก) ตามมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) เป็นเวลา 2 วัน ยกเว้นรถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV), รถ NGV และรถที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ยูโร 5 และ 6
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งจะขยายผลไปถึงผู้ว่าจ้างให้หยุดดำเนินโครงการไว้ก่อน เพื่อให้สถานการณ์ฝุ่นเบาบางลง ด้านสถานศึกษาของโรงเรียนสังกัด กทม. มีการปิดโรงเรียน เนื่องจากสถานการณ์ค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานแล้ว โดยเป็นดุลพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา และสำนักงานเขต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักการศึกษา กทม. ได้มีการจัดทำแนวปฏิบัติและแนวทางการป้องกันฝุ่นและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในโรงเรียนสังกัด กทม. โดยให้ผู้บริหารใช้ดุลพินิจปิดโรงเรียนตามสถานการณ์ฝุ่นและเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของนักเรียน
ปัจจุบันมีโรงเรียนในสังกัด กทม. ประกาศคำสั่งปิดโรงเรียนเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 สูง และคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 20-22 ม.ค. 68 รวม 3 วัน จำนวน 103 โรงเรียน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ม.ค. เวลา 10.00 น.) โดยโรงเรียนกำหนดจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Online, On Hand (จัดส่งเอกสารต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียน เช่น คู่มือการเรียนรู้ด้วยตนเอง หนังสือเรียน ใบงาน แบบฝึกหัด เป็นต้น) รวมถึงจัดการเรียนชดเชยในภายหลัง ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน.
