สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่านายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เร่งเร้าแกมข่มขู่ให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย บรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในยูเครน มิเช่นนั้นรัฐบาลมอสโกอาจเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม “ไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่”


เปสคอฟกล่าวว่า รัสเซียพร้อมเสมอที่จะเจรจากับสหรัฐ “บนพื้นฐานของความเท่าเทียม การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และการนับถือกัน” และรัฐบาลมอสโกรอสัญญาณดังกล่าวจากอีกฝ่ายมาตลอด “ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มี”


เกี่ยวกับการที่ทรัมป์วิจารณ์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของรัสเซียว่า “กำลังย่ำแย่” เปสคอฟกล่าวว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจของรัสเซีย “ไม่ต่างอะไรกับปัญหาทางเศรษฐกิจของนานาประเทศ” และเน้นย้ำว่า รัฐบาลมอสโก “มีทรัพยากรที่เพียงพอกับเงื่อนไขทางทหาร”


ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า หากไม่มี “ข้อตกลง” เกิดขึ้นเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รัฐบาลวอชิงตันไม่มีทางเลือกอื่น แต่ต้องใช้มาตรการคว่ำบาตรและขึ้นภาษี เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับรัสเซีย


ผู้นำสหรัฐยืนยันว่า เขาไม่เคยมีเจตนาต้องการทำร้ายรัสเซีย และคาดหวังการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับปูติน อย่างไรก็ตาม สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ “ไม่ควรเกิดขึ้นแต่แรก” ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์กล่าวว่า การสู้รบจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน หากเขาเป็นประธานาธิบดีในเวลานั้น สงครามครั้งนี้สามารถยุติได้ด้วย “วิธีที่ทั้งง่ายและยาก” และทุกฝ่ายควรเลือกวิธีที่ง่ายกว่า นั่นคือ “การต้องมีข้อตกลง”.

เครดิตภาพ : AFP