ทำเอาโลกออนไลน์ช็อกไปตามๆ กัน ภายหลังจากล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ม.ค. แฟนเพจที่มักเผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์อย่าง “Tensia” ได้ออกมาเปิดเคสหายากถึงเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่มีทารกอีกคนฝังอยู่ในสมอง โดยระบุว่า “เด็กหญิง 1 ขวบ หัวใหญ่มาก พัฒนาการช้า ทำ CT สมองไปเจอ “ทารกอีกคน” ฝังอยู่ในสมอง อยู่กับเธอมาตั้งแต่เกิด”

ฟังไม่ผิดค่ะ ทารกอีกคนนึงเลยค่ะ “ซึ่งทารกคนนี้น่าจะเป็นฝาแฝดที่แยกจากกันไม่สมบูรณ์ จนเข้าไปรวมอยู่ในเนื้อเยื่อของทารกอีกคน (Fetus in fetu)” เคสนี้ทำ ultrasound ไปตอนอายุครรภ์ 33 สัปดาห์แล้วพบว่า ทารกในครรภ์มีหัวโตซึ่งยังเห็นไม่ชัดว่าเป็นอะไร แล้วผ่าคลอดตอนอายุ 37 สัปดาห์ แม่พาน้องกลับมาพบแพทย์ปีที่ตอนอายุ 1 ขวบ มีพัฒนาการช้ามาก ทำ CT สมอง จึงพบดังภาพ เป็นทารกที่มีลักษณะกระดูกแขนขาชัดเจน อยู่ในถุงคล้ายน้ำคร่ำ ขนาด 15x13x12.5 cm ฝังตัวอยู่ในสมอง เบียดอัดอยู่ในนั้น

ทีมแพทย์ได้ผ่าตัด นำทั้งถุงออกมา “ซึ่งแกะออกมาดูก็พบเป็นทารกในระยะตัวอ่อน embryo ยาว 18 เซนติเมตร มีแขนขา มีกระดูก (ลงภาพไว้ข้างใต้นะคะ) แน่นอนว่าตัวอ่อนยังไม่เจริญพอ อยู่ต่อไม่ได้แน่นอน” ส่วนน้องอายุ 1 ขวบ น่าเสียดายหลังผ่าน้องอยู่ได้เพียง 12 วันแล้วก็เสียชีวิตค่ะ

ภาวะทารกเจริญในทารกอีกคน (Fetus in fetu: FIF) เป็นภาวะที่พบยากมาก กลไกเชื่อว่า คล้ายกับแฝดไข่ใบเดียวกัน/แฝดสยามค่ะ คือช่วงกำลังเจริญในครรภ์ มีการแยกตัวของเนื้อเยื่อออกมา พร้อมจะเจริญไปเป็นทารกอีกคน แต่การแยกตัวนั้น เกิดช้าเกินไป เกิดในช่วงที่กำลังจะพัฒนาเนื้อเยื่อเพื่อสร้างอวัยวะแล้ว (Gastrulation) ทำให้ผลจากการแยกตัวนั้นไม่สมบูรณ์ ถูกทารกอีกคนที่พัฒนาไวกว่า ม้วนน้องอีกคนเข้าไปอยู่ในร่าง โตในร่าง (Parasitic fetus)

“ส่วนใหญ่จะพบในเนื้อเยื่อหลังช่องท้อง (Retroperitoneum) ซึ่งพยากรณ์โรคค่อนข้างดี นานๆ ทีจะเจอที่อื่น ซึ่งกรณีเจอในที่อันตรายแบบในสมองนี้ โอกาสเสียชีวิตสูงมากค่ะ”

นอกจากนี้ ทางเพจยังได้เผยภาพ MRI หลังผ่า “จะเห็นเนื้อสมองโดนกดไปเยอะแล้วค่ะ น้องมีอาการชักต่อเนื่องหลังผ่า และเสียชีวิตในวันที่ 12 หลังผ่า”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Tensia, @PMC PubMed Central