สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลขอขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “ซึ่งรักษาคำมั่นสัญญา” ด้วยการ “มอบความสนับสนุนให้แก่อิสราเอลเพื่อป้องกันตนเอง” เพื่อการเผชิญหน้ากับ “ศัตรูร่วม” และ “เพื่อเป็นหลักประกันให้กับอนาคตของความรุ่งเรืองและสันติภาพ”


ขณะที่นายกีเดียน ซาร์ รมว.การต่างประเทศอิสราเอล ขอบคุณทรัมป์ สำหรับการส่งมอบ “อุปกรณ์สำคัญด้านความมั่นคง” ให้แก่อิสราเอล ทั้งนี้ รัฐบาลอิสราเอลไม่ได้ระบุอย่างเป็นทางการ ว่าสิ่งที่ได้รับจากสหรัฐนั้น “คืออะไร”


อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของอิสราเอลรายงานว่า สิ่งนั้นคือ ระเบิดน้ำหนัก 2,000 ปอนด์ หรือราว 907 กิโลกรัม ซึ่งไบเดนสั่งระงับการส่งมอบ เมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว โดยรัฐบาลวอชิงตันในเวลานั้นให้เหตุผลว่า “มีความวิตกกังวล” กับปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น แม้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสอยู่ระหว่างการพักรบครั้งที่สอง ยาวนาน 42 วัน ต่อจากการหยุดยิงครั้งแรก เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 เพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์.

เครดิตภาพ : AFP