เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 68 ภารโรง อายุ 50 ปี ชาวท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.4 ภายในห้องพักหลังโรงเรียนจำนวน 4 ราย เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.นัฐพงศ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผกก.สภ.ท่ามะกา หลังผู้ปกครองทราบเรื่องต่างไม่พอใจพากันแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ท่ามะกา

โดยภายหลังตำรวจรับแจ้งความ พ.ต.อ.นัฐพงศ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผกก.สภ.ท่ามะกา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ทวี สุวรรณพงษ์ รอง ผกก.สส.สภ.ท่ามะกา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อมร แสงจันทร์ สว.สส.สภ.ท่ามะกา นำกำลังชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัว กระทั่งสืบสวนทราบว่า หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ต่อมาได้รับการประสานจากภารโรงรายนี้ ว่าจะเข้ามอบตัวในช่วงเช้าวันนี้ (27 ม.ค.) และเดินทางมามอบตัวตามที่ได้บอกไว้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางมามอบตัว ภารโรงคนนี้ได้บอกยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นคนล่วงละเมิดเด็กจริง แต่ทำแค่เพียงครั้งแรกเท่านั้น และที่ทำไปเพราะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเนื่องจากดื่มสุรา หลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านทางโรงเรียนก็ทราบเรื่องและได้ให้ตนเซ็นใบรับทราบแล้วก็ให้ออกจากโรงเรียนไป จากนั้นก็เลยไปทำงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม แล้วก็คอยติดตามข่าวสารมาโดยตลอด
จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีคนโทรฯ มาบอกว่ามีคนไปแจ้งความแล้ว ทำให้ตัดสินใจเดินทางเข้ามามอบตัว ซึ่งยอมรับว่าทำผิดแล้วไม่คิดจะหลบหนี เพราะถ้าหนีก็ต้องหนีไปตลอด 20 ปี ถ้าเกิดตายไป ญาติพี่น้องก็คงไม่รู้ว่าตายไป เพราะว่าติดต่อใครไม่ได้เลย จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว

ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านพักของภารโรง ซึ่งอยู่ด้านหลังของโรงเรียนพบเป็นอาคารปูน 1 ชั้น ไว้ให้สำหรับนักการภารโรงอาศัยและใช้ทำงานไปด้วย ยังพบเสื้อผ้าและอุปกรณ์ของภารโรงวางอยู่บนเก้าอี้หน้าห้อง
ขณะที่ทางโรงเรียนได้พาญาติๆ ของเด็กนักเรียนผู้เสียหายขึ้นรถกระบะของโรงเรียนไปให้ปากคำกับทางสหวิชาชีพ ก่อนที่ทาง ผอ.โรงเรียนแจ้งว่า เดี๋ยวจะให้ข้อมูลหลังจากให้ปากคำเสร็จที่ สภ.ท่ามะกา ในช่วงเย็นวันนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป
เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งข้อหากับภารโรง ในข้อหา โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กไม่เกินอายุ 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ดูแล และกระทำอนาจารแก่เด็กไม่เกินอายุ 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยเป็นการกระทำใช้วัตถุหรืออวัยวะเพศอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศหรือทวารหนักของเด็กนั้น