กรณีที่เจ้าของร้านอาหารเดลิเวอรี่ โพสต์คลิปวงจรปิดหน้าร้าน บันทึกภาพพฤติกรรมของหญิงไรเดอร์หมวกกันน็อกหูแมว นำขยะและของเหลวบรรจุขวด มาเทเรี่ยราดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในซอยอนามัย 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่จะมีผู้เสียหายแจ้งความเอาผิด ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในข้อหาทิ้งขยะในที่สาธารณะ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 31(2) มาตรา 32 มาตรา 33 และมาตรา 35 ปรับเป็นเงิน 2,000 บาท โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพ และยังบอกอีกว่าสำนึกผิดในการกระทำ จึงทำการเสียค่าปรับพร้อมทั้งได้ทำสัญญากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะไม่ก่อเหตุดังกล่าวอีก ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพ หญิงไรเดอร์หมวกหูแมว กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง ที่หน้าร้านอาหารเดลิเวอรี่ที่เดิม และเป็นครั้งที่ 4 ที่ก่อเหตุที่หน้าร้านแห่งนี้
น.ส.แหม่ม อายุ 45 ปี (เจ้าของร้าน) กล่าวว่า ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยตอนเกิดเหตุนั้น ตนไม่อยู่ที่ร้าน แต่จากการตรวจสอบพบว่าคนที่ก่อเหตุคือไรเดอร์ผู้หญิงคนเดิม หมวกใบเดิม และรถจักรยานยนต์คันเดิม ขี่รถผ่านหน้าร้านมา และได้โปรยขยะลงที่พื้นเหมือนเดิม โดยมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงเดินอยู่บนถนนพอดี จึงเห็นพฤติกรรมของไรเดอร์ว่าเขาเอาขยะมาทิ้งอีกแล้ว ซึ่งก็ได้ตะโกนไปว่าเอามาทิ้งอีกแล้ว หลังจากนั้นเพื่อนบ้านจึงได้ถ่ายรูปขยะที่อยู่บนถนน ซึ่งก็มีขยะเหมือนเดิม คือ กระดาษทิชชูที่ใช้แล้ว กับคอตตอนบัด และเศษห่อกระดาษทิชชูที่ใช้แล้ว จึงได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์ลงตามเพจต่างๆ ของจังหวัดขอนแก่น เพื่อเตือนคนอื่น ก่อนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“หลังจากลงเพจไปแล้ว ต่างมีผู้มาแสดงความคิดเห็น หลังจากลงไปไม่ถึง 10 นาที ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กลับมาอีกแล้ว มาทำแบบเดิมอีกแล้ว ไม่มีความสำนึก อยากให้เจ้าหน้าที่จับมา จับปรับให้หนักกว่าเดิม เพื่อให้เป็นการเข็ดหลาบ รวมถึงเมื่อตอนกลับมาถึงบ้าน ก็มีไรเดอร์ที่มาส่งอาหารที่ข้างบ้านบอกว่า เมื่อวานนี้เห็นไรเดอร์ดังกล่าว ไปทิ้งขยะอยู่แถวทางอื่นด้วย ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมาทิ้งแต่เพียงที่หน้าบ้านของตนเอง เพราะทีแรกเข้าใจว่าอาจจะโกรธแค้นที่ตนไปแจ้งจับเขา ทำให้เสียค่าปรับ แต่กลายเป็นว่าไปทิ้งที่อื่นอีกเหมือนเดิม”

น.ส.แหม่ม กล่าวอีกว่า รู้สึกว่าคนที่ก่อเหตุน่าจะไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย คือรอบที่แล้วรับปากกับเจ้าหน้าที่ ว่าจะไม่ทำอีก ยังไม่ถึงเดือน ผ่านไปเพียง 2 อาทิตย์ กลับมาทำพฤติกรรมเหมือนเดิมอีก แปลว่าไม่ได้เกรงกลัว ไม่ได้แคร์ต่อสังคม และอีกอย่างที่สำคัญ คือเป็นพนักงานส่งของส่งอาหาร ซึ่งอาหารกับขยะมันไม่ควรอยู่ใกล้กันโดยสิ้นเชิงเลย ซึ่งถ้าเขาโกรธเรา เขาก็ควรจะให้เกียรติกับอาชีพของเขา ซึ่งเขาจะต้องนำอาหารจากร้านไปให้ลูกค้า อย่างน้อยเขาควรจะให้เกียรติเสื้อไรเดอร์ที่เขาสวมใส่กับเพื่อนร่วมอาชีพของเขา ที่โดนผลกระทบไปด้วย เพราะมีหลายคอมเมนต์มากเลยว่าไม่กล้าสั่งอาหารแล้ว เพราะกลัวเจอผู้หญิงคนนี้รับออร์เดอร์ที่มือจับขยะแล้วจะเอาอะไรไปใส่ในขยะไปหรือเปล่า เผื่อโกรธแค้นอะไรแล้ว ไปทำพฤติกรรมแบบนี้อีก เอาขยะไปแกล้ง ไปอะไรอีกแบบนี้หรือเปล่า คือไม่มีความสบายใจเลย
“หลังแจ้งความ ตนได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะทำอย่างไรดี ให้ไม่กลับมาทำพฤติกรรมอย่างนี้อีก อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตามตัวมาให้ได้ รอบนี้อยากให้เอาจริงเอาจังกว่ารอบที่แล้วให้มากกว่าเดิมอีก อยากฝากถึงไรเดอร์ที่ก่อเหตุ ตนเองไม่รู้ว่าโกรธแค้นอะไรตนเองหรือไม่ และวันหน้าถ้าจะมาทิ้งอีก ก็จะไปแจ้งความอีกเช่นกัน จนกว่าจะเลิกนิสัยทิ้งขยะแบบนี้ เพราะถ้าเขาเกิดโกรธใครขึ้นมา โกรธร้านค้า โกรธสังคม ก็ยังจะไปทิ้งขยะอีก ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูก”