น.ส.กฤษณา จิรวัฒน์สถิตย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจยอดขายรายไตรมาส จากสถานประกอบการที่มีคนทำงานตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ทั่วประเทศ ที่ประกอบธุรกิจการขายปลีก ที่พักแรม การบริการอาหารและเครื่องดื่ม การผลิตภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และรายการโทรทัศน์ การบันทึกเสียงลงบนสื่อ ฯลฯ การให้เช่าของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน และกิจกรรมการคัดเลือกนักแสดงภาพยนตร์ โทรทัศน์ และการแสดงอื่น ๆ กิจกรรมการสร้างสรรค์ศิลปะ ความบันเทิง การพนัน การเสี่ยงโชค การกีฬา และนันทนาการ และการซ่อมของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน และกิจกรรมการบริการส่วนบุคคลอื่น ๆ จำนวน 10,000 แห่ง เป็นประจำทุกไตรมาส

กฤษณา จิรวัฒน์สถิตย์

โดยจากผลการสำรวจยอดขายรายไตรมาส ไตรมาส 3 ปี 67 พบว่า ธุรกิจการขายปลีกสินค้าและการบริการทั่วประเทศ มีมูลค่ายอดขาย/รายรับเพิ่มขึ้น จากไตรมาส 2 ปี 67 จำนวน 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส โดยธุรกิจที่พักแรม มีรายรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด 12.9% รองลงมา คือ ธุรกิจการซ่อมของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ จำนวน 10.1% และธุรกิจการให้เช่าของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ มีรายรับเพิ่มขึ้น 10.0% ตามลำดับ

น.ส.กฤษณา กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณามูลค่ารายรับของไตรมาส 3 ปี 2567 เทียบกับไตรมาส 3 ปี 66 พบว่า มีมูลค่ารายรับเพิ่มขึ้น 27.3% โดยธุรกิจการบริการอาหารและเครื่องดื่ม มีรายรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด 81.3% รองลงมาคือธุรกิจการซ่อมของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน และกิจกรรมการบริการส่วนบุคคลอื่น ๆ จำนวน 50.1% และธุรกิจที่พักแรม มีรายรับเพิ่มขึ้น 45.4% ตามลำดับ

“เมื่อพิจารณาแต่ละประเภทธุรกิจ พบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่มีรายรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ธุรกิจการขายปลีก ธุรกิจการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจการซ่อมของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ ส่วนธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ มีมูลค่ารายรับลดลง” น.ส.กฤษณา กล่าว