เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ห้องประชุม ชั้น 5 สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ชัยภูมิ กับ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ประจำปีการศึกษา 2568-2570 โดย น.ส.สุรีวรรณ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และ ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหารพว.

น.ส.สุรีวรรณ กล่าวว่า อบจ.ชัยภูมิ ให้ความสำคัญกับจัดการศึกษาของท้องถิ่นโดยมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม หรือ เทคโนโลยี โดยมองว่าการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพ เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้มีกระบวนการคิด มีการลงมือทำ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาได้เร็วขึ้น อบจ.ชัยภูมิมุ่งหวังให้นักเรียนเข้าถึงการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีความรู้และรู้วิธีเรียนรู้ มีกระบวนการคิดขั้นสูง มีระดับผลสัมฤทธิ์ O-NET และ PISA สูงขึ้น นักเรียนจะต้องได้รับการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะการงานอาชีพ และทักษะชีวิต ที่นักเรียนนำไปใช้พัฒนานวัตกรรม ต่อยอดเพิ่มมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว แหล่งประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาที่มีอยู่หลากหลายของจังหวัดชัยภูมิ ไปสู่การสร้างรายได้ระหว่างเรียนและเห็นช่องทางการสร้างอาชีพ สร้างงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ชุมชน และสังคมให้ดียิ่งขึ้น เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ

น.ส.สุรีวรรณ กล่าวต่อไปว่า การที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้ เราต้องสร้างปัจจัยความสำเร็จอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาครูให้สามารถจัดการเรียนการสอนและบริหารจัดการชั้นเรียนให้ได้ผลดี การเพิ่มภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหาร และสร้างความพร้อมด้านสื่อการเรียนการสอน หนังสือเรียนที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยให้นักเรียนเข้าถึงง่าย เรียนรู้ง่าย เรียนรู้ได้เร็ว สนุก เรียนรู้อย่างมีความสุข และค้นพบศักยภาพของตนเอง ซึ่ง พว.เป็นองค์กรชั้นนำทางวิชาการ มีประสบการณ์ในการยกระดับคุณภาพการศึกษา เป็นผู้คิดค้น วิจัย และพัฒนานวัตกรรมกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps มีสื่อการเรียนการสอนและหนังสือเรียนที่มีคุณภาพ รวมทั้งมีเทคโนโลยีทางการศึกษาที่ทันสมัย เข้าถึงง่ายตอบสนองความสนใจของนักเรียนและลดภาระงานของครูสำหรับสถานศึกษาทุกระดับ ดังนั้นเมื่อได้รับการประสานจากพว. ทำให้เรามองเห็นประโยชน์ที่ครูและนักเรียนจะได้รับการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนการสอน ทำให้สามารถตัดสินใจได้ทันที โดยเราจะเริ่มพัฒนาและส่งเสริมให้กับโรงเรียนในสังกัดทั้ง 26 แห่งทันทีภายในปีนี้ และเชื่อว่าการทำ MOU ครั้งนี้ จะสามารถพลิกโฉมการจัดการศึกษาและการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาศักยภาพคนตามนโยบายของอบจ.ชัยภูมิ นโยบายของกระทรวงมหาดไทย และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามยุทธศาสตร์ชาติและทิศทางของการปฏิรูปประเทศได้อย่างแน่นอน

ด้าน ดร.ศักดิ์สิน กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการพลิกโฉมการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้มีการสร้างโรงเรียนต้นแบบการเรียนรู้แบบ Active Learning อย่างน้อยจังหวัดละ 3 โรง และกำลังขยายไปในระดับอำเภออีกอำเภอละ 2 โรง ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ซึ่ง อบจ.ชัยภูมิ ก็กำหนดทิศทางการจัดการศึกษาในแนวทางนี้เช่นกัน ดังนั้นถ้าเราสามารถปฏิบัติได้รวดเร็วและเกิดผลจะถือว่าเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และสร้างเป็นการสร้างสังคมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างแท้จริง