แอนจ์ ปอสเตโคกลู เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ชี้ว่า “วงจรอุบาทว์” ของอาการบาดเจ็บ เป็นตัวขัดขวางความพยายามในการคืนฟอร์มเจ๋งของ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ หลังกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากผลงานย่ำแย่ในพรีเมียร์ลีก ไม่ชนะใครเลยใน 7 นัดหลังสุด และแพ้ถึง 6 นัด ซึ่งทำให้แฟนบอลออกมาประท้วงต่อต้านประธานสโมสร แดเนียล เลวี และพอจะได้หายใจโล่งขึ้นบ้าง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ สเปอร์ ชนะ เอล์ฟสบอร์ก 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรป้าลีก

อย่างไรก็ตาม แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือชาวออสเตรเลีย ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลายราย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามในการกอบกู้สถานการณ์ของทีม ที่ต้องขาดผู้เล่นหลักหลายคนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น โดมินิก โซลันเก, คริสเตียน โรเมโร, กิเยร์โม วิคาริโอ, เบรนแนน จอห์นสัน, เดสตินี อูโดกี, วิลสัน โอโดแบร์ต, ติโม แวร์เนอร์ และ เจมส์ แมดดิสัน และล่าสุด ราดู ดรากูซิน กองหลังทีมชาติโรมาเนีย กลายเป็นแข้งรายล่าสุดที่ได้รับบาดเจ็บ หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับ เอล์ฟสบอร์ก แมว่า มิกี ฟาน เดอ เฟน ปราการหลังตัวเก่ง จะได้ลงสนาม 45 นาที หลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาก็ตาม

“เราต้องรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดขีด ซึ่งเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มันยากมากที่จะจัดการให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง เรามีผู้เล่นบาดเจ็บหนักหลายรายตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล ทำให้พัฒนาการของเราชะงัก จากนั้นเราต้องพึ่งพาผู้เล่นกลุ่มเล็ก ๆ ในการพาทีมเดินหน้า และมันก็กลายเป็นภาระหนักสำหรับพวกเขา มันเป็นวงจรอุบาทว์จริง ๆ จำนวนเกมที่สโมสรต้องลงเล่นมีมากขึ้น เราเจอสถานการณ์ที่รุนแรงมาก แต่สโมสรอื่นในยุโรป ก็กำลังเผชิญกับปัญหาในลักษณะเดียวกัน”
อดีตกุนซือเซลติก หวังอย่างยิ่งว่าจะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม ขณะที่เขาพยายามยุติความแห้งแล้งไร้แชมป์ของทอตแนม ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2008 โดนบอกว่า “ทุกครั้งที่ผมเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ มันมักจะเป็นไฟหน้าของรถไฟที่พุ่งตรงเข้ามาหาผม เราดูเหมือนจะเสียผู้เล่นไปทุกครั้งที่ได้พวกเขากลับมา เราไม่อยากให้ใครต้องบาดเจ็บเพิ่มอีก แต่แผนที่ดีที่สุดก็ยังไม่อาจป้องกันเรื่องแบบนี้ได้ คุณไม่สามารถวางแผนรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้ เรามีสัปดาห์ที่สำคัญรออยู่ เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ เราต้องทำมันด้วยกลุ่มผู้เล่นหลักที่เหลืออยู่ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังให้มาก กับวิธีการที่เราจะรับมือกับมัน”