นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้รายงานผลดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี ภายใต้โครงการศึกษาร่องรอยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่เมืองเก่านครราชสีมา ณ แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.–12 ก.พ. 2568 บริเวณเดียวกับที่ได้ทำการขุดค้นครั้งแรกเมื่อปี 2567 โดยพบโครงกระดูกมนุษย์ทั้งหมด 6 โครง อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 2 โครง และพบโบราณวัตถุ ภาชนะดินเผาแบบที่มีชื่อทางวิชาการว่า “พิมายดำ” เครื่องมือเหล็ก กระสุนดินเผา ชิ้นส่วนสำริดและอุปกรณ์สำหรับทอผ้า ได้แก่ แวดินเผา ขณะที่การขุดค้นที่ระดับความลึก 100-180 เซนติเมตรจากผิวดินพบการฝังศพของมนุษย์ในลักษณะนอนหงาย เหยียดยาว จำนวน 6 โครง ถูกฝังร่วมกับของอุทิศให้กับผู้ตาย ซึ่งความพิเศษอยู่ที่โครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 1 พบการฝังภาชนะดินเผาแบบพิมายดำ สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วว่า แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน เป็นแหล่งฝังศพของวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยเหล็ก ซึ่งมีอายุสมัยอยู่ในช่วง 1,500-2,400 ปีมาแล้ว

นอกจากนี้ยังพบแผ่นทองคำ ขนาด 0.1 x 0.01 มิลลิเมตร และที่ระดับความลึก 180 เซนติเมตรจากผิวดิน เริ่มพบภาชนะดินเผาแบบบ้านปราสาท ที่พบจากแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท อ.โนนสูง จำนวน 3 ใบ และขวานหินขัด จำนวน 1 ชิ้น ซึ่งต้องขุดค้นต่อไปว่า ระดับชั้นดินที่ลึกลงไปจะเปลี่ยนจาก “ชั้นวัฒนธรรม สมัยเหล็ก” เข้าสู่ “ชั้นวัฒนธรรม สมัยสำริด” หรือไม่ ซึ่งจะช่วยกำหนดอายุของช่วงเวลาการมีอยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่เมืองเก่านครราชสีมา

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า การดำเนินงานทางโบราณคดีในครั้งนี้ นอกจากนักโบราณคดีของกรมศิลปากรแล้ว ยังมีอาสาสมัครโบราณคดีราชสีมา จากนักศึกษาสาขาวิชาสังคมศึกษา และสาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เข้ามาเป็นผู้ช่วยขุดค้นทางโบราณคดี ตลอดจนใช้กระบวนการทางชีววิทยาเพื่อศึกษาวิเคราะห์สภาพแวดล้อมโบราณของพื้นที่บริเวณนี้ต่อไป นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นอกจากนี้ สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมายังเปิดนิทรรศการข้างหลุมขุดค้น เรื่อง “สืบร่องรอยมนุษย์โบราณ เมืองเก่านครราชสีมา จากหลักฐานทางโบราณคดี” ให้ประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนผู้สนใจเดินทางเข้ามาศึกษาเรียนรู้ควบคู่ไปพร้อมกับการเยี่ยมชมการขุดค้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความรัก และหวงแหน มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย