โรคอ้วนเป็นสาเหตุทั่วไปของการนอนกรน ดังนั้นการลดน้ำหนักจึงเป็นวิธีบรรเทาอาการนอนกรน นอกจากนี้ ในชีวิตประจำวัน ผู้คนบางกลุ่มสามารถลดอาการนอนกรน หรือแม้แต่หยุดนอนกรนได้ โดยการพัฒนาพฤติกรรมการนอนที่ดี ออกกำลังกาย และใช้เคล็ดลับบางอย่างเพื่อป้องกันการนอนกรน

เพื่อหลีกเลี่ยงการกรน เราต้องรู้ก่อนว่าอาการกรนเกิดจากอะไร?

เมื่อคนเรานอนหลับ กล้ามเนื้อคอจะค่อยๆ ผ่อนคลาย ทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนแคบลง และอากาศเข้าสู่ปอดได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากการอุดตันของการไหลของก๊าซ เมื่อเราหายใจเข้าและหายใจออก เนื้อเยื่ออ่อนรอบทางเดินหายใจส่วนบนจะสั่นสะเทือน จนเกิดอาการนอนกรน ยิ่งทางเดินหายใจแคบเท่าไร ก็จะยิ่งกรนมากขึ้น

วิธีแก้นอนกรน

  1. รักษาเวลาเข้านอนให้สม่ำเสมอ

การทำงานนานๆ ก่อนเข้านอน หรือ นอนหลับไม่เพียงพอเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าอย่างมาก เมื่อเทียบกับคนทั่วไป กล้ามเนื้อด้านหลังลำคอของคนที่เหนื่อยล้าจะคลายตัวมากหลังจากนอนหลับ ทำให้มีโอกาสนอนกรนมากขึ้น

เพราะฉะนั้น ควรเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกคืน แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ก็ไม่ควรนอน ต้องรอให้ถึงเวลาที่นอนเป็นประจำ และแนะนำให้ผู้ใหญ่นอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน

เมื่อพร้อมที่จะเข้านอน ให้หรี่ไฟในห้อง ใช้ผ้าม่านทึบแสงเพื่อป้องกันไม่ให้แสงผ่านเข้ามา สวมหน้ากากปิดตาเพื่อลดปริมาณแสงที่เข้าดวงตา

  1. หลีกเลี่ยงการกระตุ้นทุกประเภทก่อนเข้านอน

อย่าดูทีวีหรือเล่นโทรศัพท์บนเตียงก่อนเข้านอน ดวงตาของเรามีความไวต่อแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ การปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดก่อนเข้านอน จะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

  1. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหรือชาหลังเที่ยง

ผลกระทบของกาเฟอีนสามารถคงอยู่ในร่างกายได้ 5-10 ชั่วโมง และส่งผลต่อการนอนหลับในเวลากลางคืนได้

  1. รักษาอุณหภูมิในห้องและความชื้นให้เหมาะสม

อาการนอนกรนอาจแย่ลงได้ หากคอเกิดการระคายเคืองจากการหายใจเอาอากาศแห้งตลอดทั้งคืน หากอากาศแห้ง ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในขณะที่คุณนอนหลับ

  1. หลีกเลี่ยงการวางสารกระตุ้นในห้องนอน

ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ และอนุภาคขนาดเล็กอื่นๆ ในอากาศ เมื่อสูดเข้าไปในทางเดินหายใจ อาจทำให้คอและเพดานอ่อนเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้เยื่อบุคอบวมและทางเดินหายใจตีบแคบลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะกรนมากขึ้น

  1. ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน เปลี่ยนหมอนเป็นประจำ ดูดฝุ่นในห้อง เก็บสัตว์เลี้ยงให้ห่างจากห้องนอนและเตียงนอน

ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ เช่น ผู้ที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารระคายเคือง เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ และขนสัตว์ อย่างเคร่งครัด

  1. นอนตะแคงข้าง

เมื่อนอนหงาย เพดานอ่อนมีแนวโน้มที่จะยุบลงมาที่ลิ้นและคอส่วนบน ทำให้เกิดอาการนอนกรน การนอนตะแคงจะช่วยบรรเทาการอุดตันทางเดินหายใจ และลดการกรน การใช้หมอนสามารถช่วยคงตำแหน่งการนอนตะแคงในช่วงกลางคืนได้

หากนอนตะแคงไม่สามารถช่วยลดอาการกรนได้ ลงทุนซื้อหมอนสบายๆ เพื่อรองรับศีรษะขณะนอนหลับ ซึ่งจะช่วยวางตำแหน่งลิ้นและขากรรไกรของคุณ เปิดทางเดินหายใจ และลดโอกาสที่จะเกิดอาการกรน

  1. ทำความสะอาดโพรงจมูกก่อนนอน

หากโพรงจมูกของคุณถูกปิดกั้นในขณะที่คุณนอนหลับ คุณต้องหายใจทางปากเพียงอย่างเดียวในขณะนอนหลับ มีแนวโน้มที่จะกรนมากขึ้น แนะนำให้ทำความสะอาดโพรงจมูกก่อนเข้านอน อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน น้ำร้อนและอากาศอุ่นชื้นสามารถเปิดโพรงจมูกของคุณได้ หรือใช้เครื่องขยายโพรงจมูกเพื่อเปิดโพรงจมูก ซึ่งจะช่วยลดอาการนอนกรนได้

  1. หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดและอาหารมัน

อาหารรสเผ็ดมากเกินไป มักทำให้เกิดการอุดตันของเยื่อเมือกในปากและลำคอ ปริมาณสารคัดหลั่งจากจมูกและทางเดินหายใจที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้เกิดอาการนอนกรนรุนแรงขึ้น.

ที่มาและภาพ : sohu