จากกรณีหลังจากที่มีการปล่อยภาพฟิตติ้งละครเรื่อง “คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์” เป็นภาพที่ “โบว์ เมลดา” นางเอกสาวชื่อดัง ประกบคู่กับ “ภณ ณวัสน์” ซึ่งภาพฟิตติ้งในครั้งนี้ ได้กลายเป็นไวรัล เนื่องจากสาวโบว์ แนบจมูกลงบนกล้ามแขนหนุ่มภณ แต่บางส่วนกลับมีดราม่าคอมเมนต์เป็นการคุกคามผู้ชายหรือไม่นั้น

‘โบว์ เมลดา’ แจงภาพดมแขน ‘ภณ ณวัสน์’ ลั่นแค่หน้าที่ ใครจะสาระแนดมจริง

ล่าสุด หนุ่มภณ ได้มาร่วมงานแถลงข่าว “มหกรรมความบันเทิง ครบรอบ 55 ปี สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3” เจ้าตัวดีใจที่ฟีดแบ็กละครดีมาก พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น

ภณ เผยว่า “ดีใจกับฟีดแบ็กละครที่ดีมากๆ เพราะว่าตอนทำงานทั้งทีมงาน นักแสดง เห็นหลายๆ คนที่ตั้งใจแล้วก็ทุ่มเทมากๆ เราเห็นตอนถ่ายทำกัน 114 คิว เกือบปีมันนานมาก อันนี้คือทุกคนตั้งใจแล้วพอผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด ผมว่าทุกคนหายเหนื่อย ถาม 114 คิวเยอะที่สุดในชีวิตที่เล่นละครไหม ผมเคยถ่ายเยอะสุดแค่ประมาณ 99 หรือ 100 คิว ซึ่งการทำงานกับป้าแจ๋ว คือป้าแจ๋วเขาดี เมื่อกี้เดินมายิ้มเลย ในกองเขาด่าเราไหม ไม่ค่อยๆ อาจจะเพราะว่าเป็นผู้ชายหรือเปล่าไม่แน่ใจ ไม่หรอก คือเรารู้ว่าป้าแจ๋วเขาเป็นแนวไหน เรียกว่าเราก็อยู่เป็นแล้วกัน ซึ่งเขาให้ถอดเสื้อบ่อยเฉพาะอยู่บ้าน ถ้าอยู่บ้านได้ถอดแล้วก็นุ่งแต่ลอยชาย ผ้าผืนเดียว แล้วในเรื่องคือคุณหลวงสายเปย์มากเลย คือเปย์ แต่เมื่อไหร่จะไถ่ตัวไม่รู้ ต้องไปรอดู

ซึ่งตอนละครออนแอร์ป้าแจ๋วพาไปมูเตลูที่นครพนม คือเรามีความเชื่อเรื่องของพญานาคอะไรอย่างนี้ด้วย ก็คือพา “โบว์ เมลดา” พา “พี่ป๊อป ธัชทร” ไปไหว้ แล้วรู้สึกว่าขอพรเพิ่มเติมให้ปังๆ ขึ้นไปอีก ถามว่ามีการบนไหม ส่วนตัวผมแค่ขอพรพอ เพราะว่าบนแล้วชอบลืม ไม่ดีๆ แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าโบว์ได้บนหรือเปล่า แต่ป้าแจ๋วอาจจะบน ซึ่งต้องไปทั้งแก๊งเหมือนเดิม อันนี้ไม่แน่อาจจะมีหรือว่าถวายรำ ผมได้ยินแว่วๆ บางคนถึงขั้นเจิมโทรศัพท์มือถือ เจิมทุกอย่างที่เป็นมูๆ สิ่งที่ดีก็คือรับไว้หมดเลยในทริปนี้

ส่วนการร่วมงานกับโบว์ ก็ดี อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ รู้สึกเหมือนอยู่กับเพื่อนผู้ชาย เอเนอร์จี้แบบสมมุติผมเดินมาง่วงๆ ผมเจอโบว์ เมลดา คือผมตื่นเลย เป็นอะไรที่ดี เหมือนผมเจอพวกเดียวกัน  อย่างที่โบว์บอก ซึ่งงานนี้หลายคนถามว่าโบว์เล่นเป็นนวนิยาย หรือนวนิยายเล่นเป็นโบว์ หรือเขาเล่นเป็นตัวเอง ผมว่าผสมผสานดีกว่า เพราะว่าโบว์เขาเก่ง แล้วก็เอเนอร์จี้เขาเยอะ เขาเข้าใจในตัวละครแล้วพอเขาเข้าใจในตัวละครปุ๊บ เขาก็เอาคาแรกเตอร์แล้วบวกกับเอาตัวเองมารวมกัน มันก็เลยออกมาเป็นบุญตาที่น่ารัก ซึ่งบทที่เราทั้งคู่เล่นบางทีก็มีอิมโพรไวส์ทั้งนั้นนะครับ ที่อยู่เป็นแบ๊กกราวด์แล้วเบลอๆ ที่โบว์เล่น อันนั้นคืออิมโพรไวส์ ผมดูแล้วแบบไม่ใช่บทๆ ซึ่งถามว่าเราตามทันไหม แรกๆ ยากเพราะไม่รู้ว่าจะมามุกไหน หลังๆ รู้แล้ว ดึงอย่างเดียว ดึงไว้ บางทีถ้าเห็นผมในฉากกัดกรามคือผมดึงอยู่ อยากปล่อยของเราไหม ผมว่าไว้ปล่อยตอนคัตดีกว่า เพราะว่าบางทีแข่งกับเวลาด้วย แต่โบว์ต้องทำครับ เพราะว่ามันเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำให้ทุกๆ คนสนุก ซึ่งงานนี้โบว์น้อยใจว่าป้าแจ๋วดูแลแต่ภณไม่ดูแลเขาเลย ไม่ ป้าแจ๋วดูแลทุกคนดีเท่ากันหมด แต่โบว์ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ จริงๆ ดูแลทุกคนเท่ากัน น่ารัก  ความคาดหวังเรื่องเรตติ้ง ความฝันของนักแสดงทุกคน ผมว่าคาดหวัง 2 หลัก แต่ตอนนี้ก็พยายามขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วกัน ค่อยๆ เดินแล้วขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ไม่รีบแล้วเหลืออีกตั้ง 17 อีพี จนถึงเมษายน เพราะว่าออนวันละประมาณชั่วโมงเดียว ก็คุ้มค่ากับ 114 คิว ประวัติศาสตร์เลยครับ ส่วนฟีลในเรื่องโรแมนติกของคู่เรา มันจะเป็นฟีลแบบกิ้วๆ คืออีพีล่าสุดที่มองตากันแล้วตื่นมาในอ้อมแขน อันนั้นยังเบๆ ยังมีมากกว่านี้ ให้คนฮอบอะ

สำหรับเรื่องดราม่าที่โบว์ไปดมแขนเรา วันนั้นเป็นวันฟิตติ้ง คือไม่ได้งับนะในรูปมันเป็นท่าดม ซึ่งถ้าโบว์ดมจริงผมก็ต้องรู้สึก เพราะว่าผมถอดเสื้ออยู่ อย่างที่โบว์สัมภาษณ์ไปเลยครับ คือโบว์เขาแค่ทำท่า ทำหน้าเฉยๆ ผมไม่รู้สึกตัวอะไรเลย จนผมเห็นรูปว่าทำท่านี้ด้วย  มันตลกอะ ที่หลายคนบอกดูคุกคาม ไม่ๆ มันอยู่ในหน้าที่ วันฟิตติ้งทุกคนอยู่เยอะมาก เราสวมบทเป็นคุณฉาย เขาสวมบทเป็น นิทรา บุญตา อะไรอย่างนี้ คือทุกอย่างเป็นการแสดงอยู่แล้ว ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกอะไรกับโมเมนต์แบบนั้นใช่ไหม เพราะว่าบุญตาถ้าใครอ่านนิยายจะรู้ว่าคาแรกเตอร์เป็นแบบนี้ ฟีลแบบติดเล่น คุณหลวงก็จะมีมาดของเขา ผมยืนยันได้เลยว่าผมได้ยินทีมงานบอกว่าโบว์ขอแบบเล่นๆ ทะลึ่งตึงตังหน่อย เขาก็เลยจัดเต็มเลยน่ารักดี คือเราอยากยืนยันกับแฟนคลับเรา ผมก็อยากจะบอกว่าที่โบว์สัมภาษณ์ไปทั้งหมดคือจริง ผมได้ยินทีมงานบรีฟจริงๆ ว่าขอให้โบว์ทะลึ่งตึงตังตามคาแรกเตอร์หน่อย แล้วในวันฟิตติ้งวันนั้นเขาเรียกว่าเราอยู่ในสถานะที่เราทำงานอยู่ เพราะฉะนั้นที่โบว์พูดไปเลยดมธุรกิจ”

หนุ่มภณ เผยต่อว่า “ส่วนวันรับปริญญาของคุกกี้คือรถติดมาก เขาเรียกว่าเอาชีวิตรอด แค่เราไปทัน แต่แสงเย็นแล้วนะ แต่ยังทันอยู่ เราก็บอกกับเขา ก็แสดงความยินดีครับ เพราะว่าตอนที่เขาทำอยู่ปีสุดท้าย ก็ทำงานไปด้วย ก็รู้สึกว่าเขาสู้มาก ตั้งใจมากๆ กับทั้งงานแล้วก็เรื่องเรียน พอทุกอย่างมันประสบความสำเร็จเราก็ต้องไปแสดงความยินดี แล้วก็ดีใจกับเขาด้วย เรียกได้ว่ารูปที่ลงในสตอรี่ครั้งนั้นก็ลงรูปครั้งแรกเหมือนกัน ถามว่าอันนี้เป็นการนัดแนะกันหรือเปล่าว่าช่วงนี้แหละเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว ไม่ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับฟีลลิ่งผมล้วนๆ เลยตอนไหนก็ตอนนั้นเลย ส่วนที่หลายคนก็อิจฉาดูแลดี เสิร์ฟน้ำ จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วมือเขาเต็มไม่รู้ว่าจะกินยังไง ไหนๆ เราก็ซื้อน้ำมาแล้ว ถามว่ามีของขวัญอะไรให้เขาบ้าง ก็เรื่อยๆ อยู่แล้วทุกๆ วัน แต่คือวันนั้นก็เอาดอกไม้ไปแสดงความยินดี ส่วนของขวัญอย่างอื่น ตอนนี้ยังไม่ได้ให้อะไร ก็คือแสดงความยินดีกับเขา อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไหม จะเรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ ถามว่าเรียกว่าแฟนกันหรือยัง คือเวลาเราอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้เรียกอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว ก็คือเรียกชื่อกันปกติ แต่ถ้าจะให้สถานะจริงๆ ตอนนี้ก็เป็นคนพิเศษ แต่ถ้าพี่ (นักข่าว) เรียกก็แล้วแต่พี่เลย ถ้าจะพาดหัวล่ะว่าคู่รักนักวิ่ง เนี่ยเดี๋ยวล่าสุดเขาก็จะไปโตเกียว ไปวิ่ง ซึ่งตัวผมไปด้วยไหม จริงๆ ผมนัดเพื่อนอยู่แล้ว พอดีมันบังเอิญว่าเป็นไทม์มิ่งเดียวกัน อันนี้บังเอิญจริงๆ คือผมนัดเพื่อนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าในช่วงเวลานี้แหละ ช่วงโตเกียวมาราธอน ซึ่งตอนวิ่งเราจะปล่อยเขาวิ่งครับ เพราะว่าเขาซ้อมมาเท่าไหร่เขาก็วิ่งเท่านั้น เขาค่อนข้างที่จะวิ่งจริงจัง ได้เป็นนางฟ้านักวิ่ง เขาเคยได้ฉายานี้ ตอนนี้ก็ยังเป็นมั้ง

เท่าที่รู้จักกันมาเขาเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้สบายเลย ไม่ต้องมาห่วงนู่นห่วงนี่ ถามว่าภณเป็นสายเทคแคร์ไหม ก็อาจจะเทคแคร์น้อยกว่าเขา ก็พยายามเทคแคร์บ้าง ซึ่งตี 4 ตื่นไปวิ่งกับเขาได้ไหม คือผมตื่นอยู่แล้ว เพราะก่อนที่จะเจอผม ผมก็ตื่นตี 4 ไปวิ่งอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ฝุ่นเยอะผมวิ่งในฟิตเนส”