สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า กำลังพิจารณาการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ และอาจมีการประกาศในวันที่ 2 เม.ย. นี้ แม้ผู้นำสหรัฐยังไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมมากไปกว่านั้น แต่เปรยว่า ต้องการให้เมืองดีทรอยต์เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของประเทศ
????REPORTER: "Mr. President, you mentioned auto tariffs the other day, when are they happening?"
— Autism Capital ???? (@AutismCapital) February 14, 2025
TRUMP: "Maybe around April 2nd. I would have done it on April 1st but I'm a little superstitious. We literally had it planned for April 1st but I said let's make it April 2nd. Do you… pic.twitter.com/DQOAfcmZTe
ปัจจุบัน ราว 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐ มาจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่การนำเข้าชิ้นส่วนส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโกและแคนาดา ที่เหลือมาจากประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของโลก อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี
เมื่อไม่นานมานี้ นายจิม ฟาร์ลีย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของฟอร์ด มอเตอร์ ออกมาแสดงความไม่พอใจ ที่ผู้นำสหรัฐเตรียมขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม จากแคนาดาและเม็กซิโก ในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 12 มี.ค. นี้ จะส่งผลกระทบต่อการบูรณาการของห่วงโซ่อุปทานระหว่างสหรัฐ กับแคนาดา และเม็กซิโก ตามกรอบข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ).
เครดิตภาพ : AFP