เมื่อเวลา 11.23 น. วันที่ 17 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากกองบิน 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา มายังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยมี พล.ต.วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 ให้การต้อนรับ

นายภูมิธรรม ได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางการดำเนินงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในเรื่องของงานสำคัญ ๆ ตามนโยบาย ทั้งงานการควบคุมพื้นที่ และการบังคับใช้กฎหมาย งานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด งานการส่งเสริมการอยู่ร่วมกัน ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง งานการสร้างความเข้าใจ และงานด้านบูรณาการด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนา 

จากนั้น นายภูมิธรรม ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อรับฟังสถานการณ์และการปฏิบัติงานที่สำคัญในพื้นที่ ก่อนกล่าวมอบนโยบาว่า วันนี้ตั้งใจมาเจอกำลังพลและผู้บังคับบัญชาทุกระดับ สิ่งที่ตนตั้งใจตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่ รมว.กลาโหม ดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง คืออยากเห็นการแก้ไขปัญหาหลายเรื่องที่ยังค้างคาให้ได้รับการคลี่คลาย แต่ตนคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ หรือแก้ปัญหาจบในทันทีทันใด เพราะปัญหานี้ยังคงต้องใช้เวลา ซึ่งตนได้ดูนโยบายทั้ง 5 ข้อแล้ว จะปรับอย่างไรก็อยู่ใน 5 ข้อนี้ โดยได้นำศาสตร์พระราชา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราทำงานได้ ดังนั้นปัญหาสำคัญคือการจัดลำดับ เอาอะไรเป็นน้ำหนักมากน้อยต่างกัน 

“วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก มีภัยคุกคามที่เกิดขึ้นมากมาย คำว่าความมั่นคง ต้องตีความให้กว้างกว่าที่เคยมีมา และต้องเอาความสันติสุขกับโอกาสเป็นธงนำ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสทางการศึกษา การสร้างโอกาสในการมีชีวิตที่ดี การสร้างโอกาสในการมีงานทำ มีชีวิตที่ดี หรือได้รับระบบสาธารณสุขที่ดี ส่วนการใช้กำลังนั้น สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ให้บังคับใช้กฎหมาย ในการระงับ สกัด ป้องกันและปราบปรามกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่“ นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขอให้จัดทำยุทธศาสตร์ความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนและต่อเนื่อง รวมถึงต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน มีคำสั่งเดี่ยว (ซิงเกิล คอมมานด์) ปรับบทบาทการทำให้ถึงระดับผู้ปฏิบัติ ที่จะต้องมีความเป็นเอกภาพในการทำงาน นอกจากนี้ต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางชายแดน ให้เป็นที่เอื้อให้ทั้งไทยและมาเลเซีย สามารถใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการสร้างอาชีพ และสร้างความสันติสุขในพื้นที่ และอีกหนึ่งสิ่งคือต้องนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติงาน ตลอดจนถ้าหากในพื้นที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น ต้องให้กำลังพลออกไปช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดด้วย

ภายหลังการประชุม นายภูมิธรรม แถลงย้ำอีกครั้งว่า ตั้งใจมา เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่เผชิญปัญหาภาคใต้ รับบทบาทหลักในการดูแลและแก้ปัญหา ก็มาให้กำลังใจ เพราะกำลังพลที่นี่เสี่ยงชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบาก เป็นการดูแลชีวิตของประชาชนในประเทศ ส่วนปัญหาในการดำเนินการต่าง ๆ ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร เพียงแต่ได้ฟังสถานการณ์