นายคาซึโนริ ทานิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยผลประกอบการปี 2567 ยอดขายมูลค่ารวมปิดที่ 62,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนธุรกิจในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% เผยแม้สภาพภูมิอากาศในปีนี้ค่อนข้างแปรปรวน แต่ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมยังทรงตัวในเกณฑ์ดี ผนวกกับนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการทำเกษตรแบบสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของเกษตรกร จึงทำให้ยอดขายของบริษัทฯ โดยรวมเติบโตขึ้น 7%
สำหรับปี 2568 คาดการณ์ยอดขายรวมโตขึ้นราว 8% ตั้งเป้าอยู่ที่ 67,000 ล้านบาท จากปัจจัยบวกต่างๆ อาทิ ธุรกิจผู้ให้บริการด้านการเกษตร (Service Provider) ที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้น รวมถึงโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ของภาครัฐ นอกจากนี้ภาคการเกษตรในอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วยปัจจัยที่เน้นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และเพิ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ตลอดจนการขยายสินค้าให้หลากหลายครบวงจร
“ปีนี้สยามคูโบต้าเดินหน้าผลักดันนโยบายหลักมุ่งสู่การเป็น “Global Major Brand” ด้วยแนวคิด “Champion Data” เพื่อสร้างสถิติใหม่และรักษาความเป็นที่หนึ่ง “Forever ONE” ในการเป็นผู้นำเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรของประเทศไทย ด้วย 4 ปัจจัยสำคัญคือ 1. การพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ด้วย Smart Farming 2. เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ขยายตลาดจากเอเชียสู่ระดับโลก 3. บริหารจัดการตามหลัก K-ESG ยกระดับความปลอดภัย สุขภาพพนักงาน และธรรมาภิบาล พัฒนานวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดก๊าซเรือนกระจก 4. พัฒนาและขยายผลิตภัณฑ์ ยกระดับความพรีเมียมของสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยคุณภาพและความคุ้มค่าของราคา”
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 1.8% – 2.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ ปริมาณน้ำฝนสะสมที่เพิ่มขึ้นจากลานีญ่า ผลผลิตภาคการเกษตรคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น สำหรับ GDP ภาคการเกษตรในประเทศกัมพูชาและลาวคาดว่าจะเติบโต 1.4% และ 3.1% ตามลำดับ โดยเฉพาะสินค้าหลักประเภทข้าวมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากราคาที่ดีและปัญหาภัยแล้งคลี่คลายเป็นผลจูงใจให้เกษตรกรปลูกเพิ่มขึ้น
“สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ สยามคูโบต้าวางกลยุทธ์ Perform and Transform เพิ่มประสิทธิภาพ สู่การเปลี่ยนอนาคตที่ยั่งยืนใน 4 ด้าน คือ 1. Empower with Eco System รักษาความแข็งแกร่งด้านการแข่งขัน สร้างคุณค่าในสินค้าตลอดอายุการบริการ 2. Driving growth with precision farming ขยายตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างต่อเนื่องร่วมกับการขับเคลื่อนไปสู่เกษตรแม่นยำ (Precision Farming) 3. ESG for Sustainability ผลักดัน ESG เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในภาคเกษตร และสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน 4. Transforming Efficiency with AI ใช้ AI ในการพัฒนากระบวนการผลิต รวมถึงการพัฒนาให้เป็นโรงงานสีเขียว และพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ