เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม ก.อ. ชั้น 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ มีนายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการเป็นประธานในการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 3/2568 โดยที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติ
1. รับทราบรายงานผลการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ก.พ.ค.) จำนวน 1 ราย
2. รับทราบการขอขยายระยะเวลาการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการอัยการ จำนวน 11 ราย
3. เห็นชอบบัญชีรายชื่อกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการ
4. เห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการอัยการชั้น 2 จำนวน 56 ราย
5. เห็นชอบให้ข้าราชการอัยการโอนไปรับราชการเป็นข้าราชการตุลาการ สำนักงานศาลยุติธธรรม จำนวน 13 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
6. เห็นชอบให้แต่งตั้งนางเยาวลักษณ์ นนทแก้ว อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เป็นกรรมการธุรกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558
7. เห็นชอบให้พักราชการข้าราชการอัยการในระหว่างการพิจารณาและการสอบสวนทางวินัย จำนวน 1 ราย
8. มีมติให้ดำเนินการทำความเห็นเพิ่มเติมกรณีข้าราชการอัยการถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จำนวน 1 ราย
9. ลงโทษกรณีข้าราชการอัยการถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย จำนวน 1 ราย
10. เห็นชอบการแก้ไขระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยเสื้อครุยข้าราชการอัยการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ…….
โดยนัดประชุม ก.อ. ครั้งที่ 4/2568 ในวันพุธที่ 5 มี.ค. 2568 เวลา 11.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อ 7 ที่เห็นควรให้พักราชการรายหนึ่ง เป็นระดับรองอธิบดีอัยการ ถูกร้องเรื่องสินบนจีนเทา จนภายหลังถูกพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตฯยื่นฟ้อง ต่อศาลไปแล้วทางคณะกรรมการอัยการเลยสั่งพักราชการ สำหรับรองอธิบดีอัยการคนนี้ เคยปรากฏเป็นข่าวใหญ่ที่ถูกอดีตทนายดังมายื่นร้องเรื่องชู้สาว
ส่วนข้อ 8 ที่มีมติให้ทำความเห็นเพิ่มเติมกรณีอัยการชั้น 4 (ระดับอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด) รายหนึ่ง ขณะทำงานอยู่สำนักงานแขวงในพื้นที่ ภาค 1 โดนร้องเรียนถูกกล่าวหากรณีวิ่งเต้นเรียกเงินจีนเทารายใหญ่ที่ทางการจีนต้องการตัวส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตอนนี้มาก ที่เคยปรากฏเป็นข่าวดัง แล้วปรากฏว่าไม่สามารถดำเนินการได้ และไม่คืนเงิน จึงถูกร้องเรียนโดยผู้ร้องมีหลักฐานเป็นรูปภาพตอนนำเงินประมาณ 25 ล้านบาทไปใส่ไว้หลังรถที่แอบถ่ายไว้ แต่พอมาภายหลัง ทางอัยการคนดังกล่าวได้ดำเนินคดีกลับกับคนร้องเรียนในความผิดฐานหมิ่นประมาท จนศาลมีคำสั่งรับฟ้อง ทางคณะกรรมการอัยการจึงให้ทำความเห็นเพิ่มเติมสรุปมาก่อนพิจารณาในนัดหน้าอีกครั้ง (25 มี.ค.) สำหรับอัยการคนดังกล่าว นอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีกรณีที่ถูกดำเนินคดีอีกหลายคดี
ส่วนข้อ 9 ที่ลงโทษอัยการกระทำผิดวินัย จำนวน 1 ราย เป็นกรณีที่อัยการถูกฟ้องล้มละลาย ซึ่งทางคณะกรรมการอัยการมีคำสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ตามระเบียบ