สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) รายงานว่า ความขัดแย้งในซีเรียที่ยาวนานถึง 14 ปี ทำลายความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และทุนมนุษย์ที่สั่งสมมานานเกือบ 40 ปี

“ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน เศรษฐกิจของซีเรียจะไม่สามารถฟื้นคืนกลับสู่ระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ก่อนความขัดแย้ง ได้ภายในปี 2623” ยูเอ็นดีพี ระบุเสริม พร้อมกับเรียกร้องให้มีการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของซีเรียในปีนี้ หลังการโค่นอำนาจประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อปีที่แล้ว

อนึ่ง โครงสร้างพื้นฐานของซีเรียส่วนใหญ่ถูกทำลาย และประเทศเผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างหนัก สืบเนื่องจากอัสซาดปราบปรามฝ่ายค้าน หลังสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อปี 2554

งานศึกษาของยูเอ็นเรื่อง “ผลกระทบของความขัดแย้งในซีเรีย” ประมาณการว่า สัดส่วนชาวซีเรียในปัจจุบัน อาศัยอยู่ในความยากจนประมาณ 90% ไม่มีงานทำราว 25% และจีดีพีของประเทศ หดตัวเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่าในปี 2554

นอกจากนี้ งานศึกษาดังกล่าวยังประเมินว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีของซีเรีย ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.3% ซึ่งซีเรียจำเป็นต้องเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทะเยอทะยานถึง “10 เท่า” ในอีก 15 ปีข้างหน้า เพื่อทำให้เศรษฐกิจกลับสู่ระดับที่ควรจะเป็น หากไม่มีสงครามเกิดขึ้น.

เครดิตภาพ : AFP