สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวระหว่างการแถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี “เพื่อแลกกับการที่ยูเครนได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)” และเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนของยูเครน
ในประเด็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับรัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งประกาศชัดเจนว่า ยูเครนจะไม่มีทางได้เป็นสมาชิกนาโต และไม่สามารถหวนกลับไปมีดินแดน “เท่าเดิม” ได้อีก อีกทั้งรัฐบาลวอชิงตันเดินหน้ากดดันให้เซเลนสกีลงนามในข้อตกลง ที่จะเป็นการแบ่งปันแร่ธาตุหายาก “ครึ่งหนึ่ง” ให้กับสหรัฐ เพื่อเป็นค่าชดเชยจากความช่วยเหลือทั้งหมด เซเลนสกีกล่าวว่า “ต้องการมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน” กับอีกฝ่าย
❗️Zelensky READY TO STEP DOWN for peace in Ukraine
— RT (@RT_com) February 23, 2025
Says he'd do it in exchange for NATO membership pic.twitter.com/Afs1pmjoBM
ขณะเดียวกัน เซเลนสกียืนยันว่า “หลักประกันด้านความมั่นคง” จากสหรัฐ “ยังคงเป็นสิ่งที่ยูเครนต้องการอย่างมาก” พร้อมทั้งกล่าวว่า “ไม่โกรธ” ที่ถูกทรัมป์เรียกว่า “ตัวตลกและเผด็จการ” โดยยืนยันว่า พร้อมพิสูจน์ตัวเอง
อีกด้านหนึ่ง กองทัพยูเครนรายงานว่า กองทัพรัสเซียส่งฝูงอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน 267 ลำ โจมตีเป้าหมายทั่วยูเครน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นสถิติการโจมตีสูงสุดภายในคืนเดียว นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 แต่ยืนยันว่า ระบบป้องกันทางอากาศสามารถสกัดได้ “แทบทั้งหมด”.
เครดิตภาพ : AFP