เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 25 ก.พ. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) จะมีการประชุมว่าจะรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ว่า ตนไม่หนักใจ เพราะถือว่าทำหน้าที่ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณา ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ดีเอสไอไปขุดเรื่องนี้มา ซึ่งหน้าที่ของดีเอสไอ คือ ต้องพิสูจน์ทราบว่ามีแนวโน้มอย่างไร และจากที่ตนได้รับรายงาน ก็พบว่ามีข้อมูลที่น่าจะถูกทราบได้ว่ามีปัญหา
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเกี่ยวกับสถาบันนิติบัญญัติแห่งชาติ และหากเป็นความจริงจะเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติอย่างมาก ดังนั้นตนจึงบอกไปว่า อย่าใช้อารมณ์หรือความรู้สึกในการกลั่นแกล้งทางการเมือง ต้องมีข้อเท็จจริงรองรับ และมีข้อกฎหมายอนุญาตให้ทำ จึงจะสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ตอนที่ส่งเรื่องมาตนก็ตกใจ เพราะข้อกฎหมายพูดถึงเรื่องอั้งยี่ช่องโจร ตนก็ถามไปว่ารุนแรงไปหรือไม่ แต่เขาบอกว่าเป็นคำพูดทางกฎหมายที่มีมานานแล้ว และเรื่องดังกล่าวเข้าข้อนี้ ก็ต้องว่าไปตามนั้น ต้องเอาข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการดูอย่างชัดเจน หากชัดเจน ดีเอสไอคงต้องทำตามหน้าที่ โดยจะต้องใช้มติของคณะกรรมการ 2 ใน 3 คือ 15 เสียง
เมื่อถามอีกว่าคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะจบเลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ชัด ขอดูข้อเท็จจริง ถ้าชัดก็เดินหน้าเลย แต่หากยังมีอะไรขาดตกบกพร่องก็ต้องเพิ่มเติม อยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละคน
เมื่อถามอีกว่ากรณีที่ สว. ตั้งแท่นจะฟ้องกลับ ทำให้หวั่นไหวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้หวั่นไหวอะไร เราทำตามหน้าที่ ถ้าฟ้องก็ต้องฟ้อง กกต. เพราะเป็นคนยื่นเรื่องมาให้ ดังนั้นต้องใช้ดุลพินิจทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ไม่เอาความชอบหรือความเกลียดการเมืองทั้งหมดเข้ามาใส่ในการตัดสินใจ
เมื่อถามอีกว่าหากรับเป็นคดีพิเศษ ขั้นตอนหลังจากดีเอสไอต้องไปที่ศาลใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ว่าดีเอสไอตัดสินใจอย่างไร ก็ไม่จบ ต้องยื่นศาลเป็นดุลพินิจสุดท้าย และอยู่ที่อัยการด้วย ส่วนจะส่งเรื่องให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือศาลอาญาปกติ ก็แล้วแต่ประเด็นข้อกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่าสังคมมองเรื่องนี้มองว่าเป็นเรื่องการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า สังคมให้ความสนใจและรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ตนไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ดังนั้น ตนจึงกำชับว่าต้องเอาตามข้อเท็จจริง ตามข้อกฎหมาย ทำหน้าที่โดยไม่ต้องคิดว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ใครทำผิดจริงก็ต้องรับผิดชอบ
“เราไม่ได้พิจารณาว่า สว. เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ผมยังไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ใช่ ต้องให้พรรคภูมิใจไทยแสดงท่าทีออกมาแล้วค่อยว่ากัน ไม่มีการเมืองนะ ไม่ได้พิจารณาว่าเป็นพรรคการเมืองฝ่ายไหน” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามอีกว่าหากเข้ากระบวนการต้องรออีกนานใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อถามอีกว่า สว.อิสระบางคนแสดงความเป็นห่วงว่า เป็นเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกแซงกระบวนการ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปดูที่ กกต. เป็นความรับผิดชอบของนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เพราะเป็นคนทำเรื่องตั้งแต่ต้น ส่วนจะกระทบต่อภาพรวมการทำงานของรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่กระทบหรอก เพราะรัฐบาลต้องทำงานบนพื้นฐานความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และตามกฎหมาย ไม่ว่าคนใดของพรรคใดทำผิด ก็ต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามย้ำว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องคิดว่าทุกคนมีสามัญสำนึก ถ้ากระทบทางการเมืองก็แสดงว่า การเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของ สว. ถ้าไม่เกี่ยว ก็ไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าไปคิดไวขนาดนั้น