สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ลงพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อสังเกตการณ์การทดสอบประสิทธิภาพของขีปนาวุธนำวิถี
ทั้งนี้ ขีปนาวุธดังกล่าวเดินทางอยู่ในอากาศได้นานประมาณ 130 นาที และเคลื่อนที่ได้ไกลเป็นระยะทาง 1,587 กิโลเมตร “ก่อนโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ”
รายงานของเคซีเอ็นเอระบุด้วยว่า วัตถุประสงค์ของการซ้อมรบดังกล่าวเกิดขึ้น “เพื่อเป็นการเตือน” ให้ปรปักษ์ด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ประจักษ์ถึง “ความพร้อมและศักยภาพ” ในการโจมตีโต้กลับของเกาหลีเหนือ และความพร้อมด้านปฏิบัติการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในหลากหลายมิติ
ขณะเดียวกัน ท่านผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเน้นย้ำ “ภาระความรับผิดชอบของกองกำลังนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน” พร้อมทั้งประณามการที่ ศัตรูของเกาหลีเหนือ “เป็นฝ่ายละเมิดสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคง” และ “เป็นฝ่ายกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้า” ด้านกองทัพเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า กำลังจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเกาหลีเหนือเกิดขึ้น หลังนายคิม จอง-อึน ลงพื้นที่โรงเรียนนายร้อย คัง คอน ในกรุงเปียงยาง เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจบุคลากรที่กำลังศึกษา พร้อมทั้งขอให้คณาจารย์ของโรงเรียนนายร้อยคัง คอน เพิ่มความเข้มข้นของหลักสูตร “ให้มีการปฏิบัติจริงมากขึ้น” เพื่อให้นักศึกษา “ได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงของยุทธวิธีสงครามสมัยใหม่” และขอให้มีการฝึกในการใช้อาวุธขั้นสูง
ด้านสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นไอเอส) วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ อาจเป็นการเตรียมความพร้อมครั้งใหม่ ในการส่งทหารเข้าไปสนับสนุนรัสเซียเพื่อทำสงครามกับยูเครน หลังการส่งกำลังพลรอบแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อให้เกิด “ความสูญเสียอย่างหนัก” กับเกาหลีเหนือ จนต้องมีการถอนทหารออกมาก่อน.
เครดิตภาพ: AFP
