ตามที่พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งเรื่อง ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทฺรญาโณ) จากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว และเจ้าคณะตำบาลมะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ด้วยปรากฏว่า พระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทฺรญาโณ) เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว ต.มะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลมะขุนหวาน ได้กระทำการอันเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ด้วยการว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่นเข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตน นั้น
ทั้งนี้ สำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง มีบทลงโทษของผู้ที่ทำการทุจริตสอบบาลีสนามหลวง ซึ่งยังยึดตามที่มหาเถรสมาคม (มส.) ได้เคยมีมติเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2475 มหาเถรสมาคม มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ประชุมที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ปรารภการสอบไล่ธรรมวินัย และบาลีสนามหลวง ว่า ก่อนนักเรียนจะสอบ เจ้าหน้าที่อ่านประกาศของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ห้ามถามกัน บอกกันเป็นต้นเสมอ ประมาณ 10 ปีแล้ว ยังมีนักเรียนทำทุจริตในเวลาสอบทุกปี ขืนดื้อล่วงคำสั่งทำทุจริต ผิดมารยาทของพระเณร ส่อว่า ความรู้ที่ได้เล่าเรียนไว้ไม่ให้ผลดี เป็นกิริยา ที่เลวทรามเสียหายทั้งตนและพระศาสนา ไม่มีธรรมเป็นเครื่องอบรม พอมีนิสัยหยาบ ไม่มีหิริโอตตัปปะ ธรรมที่เป็นของละเอียด ไม่เป็นอาชญา พอที่จะปราบปรามได้ เสื่อมศรัทธาเลื่อมใสของมหาชนที่เคารพนับถือ เป็นที่ดูหมิ่นของพาหิรกชน มหาเถรสมาคมมีความเห็นร่วมกัน จึงให้ประกาศว่า
1.ต่อไปนี้นักเรียนใดฝ่าฝืนทำทุจริตในเวลาสอบด้วยประการใด ๆ สนามหลวงจักลงโทษห้ามไม่ให้นักเรียนนั้นเข้าสอบในสนามหลวงมีกำหนด 5 ปี ถ้าพ้นกำหนด 5 ปีแล้วทำทุจริตอีก ห้ามไม่ให้สอบจนตลอดชีวิต
2.ถ้าเจ้าหน้าที่ทำการเกี่ยวกับการสอบ ผู้ใดทำทุจริต เช่น ช่วยบอกนักเรียน หรือมีเจตนาทำต้นประโยคให้รั่วเป็นต้น จักให้ลงโทษผู้นั้นดังนี้ ถ้าผู้นั้นมีสมณศักดิ์ราชทินนาม จักขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดจากสมณศักดิ์ ถ้าผู้นั้นเจ้าคณะตั้ง จักให้ถอดเสียจากสมณศักดิ์ จักให้ลงทัณฑกรรมตามสมควรแก่โทษ และไม่ให้เกี่ยวข้องกับสนามหลวงอีก
3.ถ้าแม่กองหรือกรรมการ เห็นประโยคไหนน่ารังเกียจว่า สอบเป็นทุจริต เช่น ดูของผู้อื่นไม่ใช่สอบด้วยความรู้ของตน เป็นต้น ให้เจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่หรือแม่กองตั้งกรรมการขึ้นตามสมควร แล้ววินิจฉัยด้วยความเห็นชอบพร้อมกัน หรือตามส่วนข้างมาก แล้วจัดทำไปโดยชอบ