เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่รัฐสภา นายภัณฑิล นวลเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงปัญหาการปล่อยเช่าคอนโดมีเนียมรายวันให้กับชาวต่างชาติ ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาตลอด 1 ปีว่ามีต่างชาติมาเช่าคอนโดมีเนียมเป็นรายวันและสร้างความเดือดร้อน เช่น จัดปาร์ตี้และใช้ยาเสพติดจนกลิ่นกัญชาออกมานอกห้อง และมีการใช้เสียงดังรบกวน บางครั้งต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบว่าในซอยนานามีชาวอาหรับมาใช้บริการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จำนวนมาก ญาติที่มาเฝ้าไข้ก็ไม่ได้พักในโรงแรม แต่เป็นการเช่าคอนโดมีเนียมอยู่ จนบางครั้งอยู่อาศัยในคอนโดมีเนียมขึ้นป้ายว่า “เราไม่ต้องการผู้พักอาศัยรายวัน” เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่คอนโดมีเนียมบางแห่งถึงขั้นต้องติดตั้งเครื่องสแกนหน้า ซึ่งเรื่องผิดกฎหมายทั้ง พ.ร.บ.โรงแรม และนิติบุคคลก็ทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สามารถปล่อยเช่ารายวันได้ แต่ไม่ยอมทำตาม โดยอ้างว่าต้องมีมติจากที่ประชุมนิติบุคคลของคอนโดมีเนียม ซึ่งปัญหาของเรื่องเกิดจาก พ.ร.บ.อาคารชุด กำหนดองค์ประชุมนิติคอนโดมีเนียมที่น้อยเกินไป แค่เศษ 1 ส่วน 3 ของผู้อาศัย ทำให้คนแค่หยิบมือเดียวก็สามารถกำหนดทิศทางบางอย่างของคนทั้งหมดได้ จึงถึงเวลาที่ต้องแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนที่มีกรรมสิทธิ์มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและตัดสินใจร่วมกันได้
นายภัณฑิล กล่าวอีกว่า มีข้อร้องเรียนมาว่าย่านนานามีการปล่อยคอนโดมีเนียมชุด ให้ผู้บริการทางเพศเช่า มีข้อเรียกร้องว่ามีหญิงผิวสีขึ้นลงคอนโดฯ จำนวนมาก แม้จะไม่ได้ทำให้เดือดร้อนโดยตรง แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยที่มีคนเปลี่ยนหน้าเข้าไปคอนโดมีเนียมพร้อมกับผู้ชาย ทำให้กังวลว่าต้องย้ายออกหรือไม่ สะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายไม่ได้คุ้มครองคอนโดอย่างแท้จริง จนเกิดคำถามว่าการไปศึกษาแนวทางที่จะให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์อาคารชุด 75 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด จะสามารถคุ้มครองคนไทยที่เป็นเสียงส่วนน้อยได้อย่างไร เพราะขนาดตอนนี้สัดส่วน 49 เปอร์เซ็นต์ ยังมีการตั้งนอมินีขึ้นมาทำให้คนอื่นเดือดร้อน เรื่องนี้ถูกปล่อยปละละเลย ขาดการทำงานเชิงรุก เพราะเรื่องนี้ปรับได้ตาม พ.ร.บ.โรงแรม เพราะเอาคอนโดมีเนียมมาปล่อยเช่ารายวัน ซึ่งตนได้ตั้งคำถามในกรรมาธิการปกครองว่าปกติชาวต่างชาติมาพักอาศัยในไทยต้องรายงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) แต่ทุกวันนี้ไม่มีการรายงาน เพราะไปเช่าคอนโดมีเนียมแบบรายวันใช่หรือไม่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสุ่มตรวจ ไม่ใช่เฉพาะช่วงที่มีกระแสข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมีเนียมตามแนวรถไฟฟ้า
นายภัณฑิล กล่าวว่า ส่วนกรณีการปล่อยเช่าคอนโดมีเนียมรายวันในแอปพลิเคชัน Airbnb ว่า ชาวต่างชาติที่ซื้อห้องไปและเอามาปล่อยห้องต่อ เงินจะโอนเข้าแอปพลิเคชัน จึงต้องตั้งคำถามว่าแอปนี้ได้เสียภาษีในไทยหรือไม่ ต้องรับผิดรับชอบอะไรเลยใช่หรือไม่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะมีแนวทางบังคับให้แอปพลิเคชันเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนอย่างไร เพื่อให้คนเหล่านี้เสียภาษีที่มาทำมาหากินในไทย.