เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.อ.ธนบัตร อัษฎมงคลพันธ์ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.1 นำกำลังควบคุมตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ นำโดย น.ส.วิลัย (สงวนามสกุล) อายุ 40 ปี กับพวกรวม 93 ราย มาฝากขังศาลตามขั้นตอนกฎหมาย โดยทั้งหมดร่วมกันกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ช่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม”

สำหรับพฤติการณ์ คือ กลุ่มของผู้ต้องหาไปตั้งฐานปฏิบัติการในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลอกลวงเหยื่อชาวไทยสารพัดรูปแบบ ทั้งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง, การไฟฟ้า, กรมที่ดิน หลอกให้ลงทุนออนไลน์, Romance Scam หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน, เว็บพนันออนไลน์ โดยมีชาวจีนชื่อ “เหลาหู่” เป็นหัวหน้า และมีนายอดิศร ลังกำแก้ว หรือ “อาฉ่าง” เป็นล่ามแปลภาษา แบ่งหน้าที่กันทำเป็นขั้นตอน มีการใช้แอปพลิเคชันปลอมและควบคุมโทรศัพท์มือถือระยะไกล เพื่อหลอกลวงและขโมยเงินจากเหยื่อ

ทางพนักงานสอบสวนคุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอสอบพยานหลายปาก โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยศาลสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีญาติของผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 1 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว โดยศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแล้วเห็นว่า คดีที่มีอัตราโทษสูง พฤติกรรมของผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่กันทำเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มูลค่าความเสียหายสูง เป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี ยกคำร้อง ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพในทันที.