หากเอ่ยถึง แอปพิลเคชั่นไลน์ (LINE) คงไม่มีคนไทยที่ไม่รู้จัก เพราะทุกวันนี้ถือเป็นแอปฯ ที่คนไทยนิยมใช้อันดับต้นๆ เรียกว่า สมาร์ทโฟนของทุกคนต้องมี “ไลน์”อยู่ในนั้น
โดยปัจจุบัน ไลน์ ไม่ใช่เพียงแอปฯ แชท เท่านั้น แต่ได้ยกระดับบริการ พัฒนาเป็นอีโคซิสเต็มสำหรับชีวิตดิจิทัลแบบครบวงจรด้วยบริการที่หลากหลาย เช่น LINE SHOPPING, LINE VOOM, LINE STICKERS, LINE MELODY, LINE TODAY, LINE OPENCHAT, LINE for Business and LINE Official Account, LINE MAN, LINE GAME, LINE WEBTOON, LINE BK และ LINE Pay และมีจำนวนผู้ ใช้งานในไทยรวม 56 ล้านคน
ล่าสุด ทาง ไลน์ ประเทศไทย ได้จัดงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) ซึ่งเป็นการเปิดโรดแมปบริการ-เทคโนโลยีใหม่ ที่ผู้ใช้งานอย่างเราๆ และ พาร์ทเนอร์ธุรกิจจะได้เห็นกันในปีนี้!

“นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร” รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ไลน์ ประเทศไทย บอกในงานว่า จากเดิมที่ ไลน์ได้มี พันธกิจ Closing The Distance ที่มุ่งเชื่อมผู้คนเข้าด้วยกัน แต่มาในวันนี้ ได้ก้าวสู่พันธกิจใหม่คือ “Create an amazing life platform that brings WOW! to our users” กับการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัล ด้วยการนำจุดแกร่งของฟีเจอร์แชทและกลยุทธ์การพัฒนาบริการบนแอปพลิเคชันอย่าง Hyper-localization & Humanization ที่เข้าถึงคนไทย 56 ล้านคน โดยในปี 68 นี้ ถือเป็นอีกจุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญในการยกระดับแพลตฟอร์มและอุตสาหกรรมดิจิทัลของเมืองไทย
โดยบริการใหม่ๆ ในปีนี้ 68 นี้ ที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะได้เห็น เริ่มกันที่ “LINE PREMIUM” เป็นระบบสมาชิกที่ผู้ใช้ ไลน์สามารถเลือกสมัครเพื่อประสบการณ์แชทที่ดียิ่งขึ้น การสมัคร จะมีค่าใช้จ่าย 169 บาท ต่อเดือน เรียกว่าเป็นบริการที่ ไลน์ จะเริ่มเก็บเงินผู้ใช้งานแล้ว
ซึ่งเป็นเทรนด์ที่แอปฯ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ก็มีการเก็บเงิน มานานแล้ว แลกกับฟีเจอร์พิเศษ หรือการใช้งานแบบไม่มีโฆษณามากวนใจนั่นเอง

แต่ใครที่ไม่อยากสมัคร ก็จะใช้งาน ไลน์ ได้ฟรีเหมือนเช่นเดิม แต่ผู้ที่สมัครยอมจ่ายเงิน ก็จะได้มาซึ่งฟีเจอร์พิเศษ อาทิ การเปลี่ยนหน้าตาไอคอนแอปฯ ไลน์, การเปลี่ยนฟอนต์ (Fonts Alternation), Multiple Profiles สำหรับการสร้าง Sub Profile เปลี่ยนรูปและชื่อโปรไฟล์ของตัวเองให้เหมาะกับเพื่อนแต่ละกลุ่มบน ไลน์ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในหลากหลายบทบาท
และที่สำคัญก็คือ Message Backup ที่หลายคนที่ใช้งานที่ผ่านมา แล้ว รูปภาพ ไลฟ์เอกสารที่เราส่งหากัน จะมีวันหมดอายุ ดูหรือ ดาวน์โหลดไม่ได้แล้ว
แต่เมื่อยอมจ่ายเงินแล้วฟีเจอร์ Message Backup จะช่วยเก็บรักษาข้อความ รูปภาพ ไฟล์เอกสาร และวิดีโอได้แบบไม่มีวันหมดอายุ พร้อมพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 100 GB แถมยังมีสิทธิประโยชน์จาก LINE SHOPPING และ LINE MAN ในราคาเพียง ด้วย โดยบริการ LINE PREMIUM” วางแผนเปิดให้สมัครสมาชิกช่วงเดือนไตรมาส 2 ปีนี้
ต่อมา คือ “LINE GIFT” ที่เป็นบริการ e-Gifting ที่จะเปลี่ยนมุมมองการให้ของขวัญในมิติใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Social Gifting ให้การมอบความรู้สึกดี ๆ แก่เพื่อนบน ไลน์ โดยผ็ใช้งานสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านหน้าแชตได้ทันที ด้วย e-Voucher ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ จากแบรนด์ชั้นนำ และสินค้าที่ส่งตรงถึงผู้รับได้แม้ไม่รู้ที่อยู่

โดยมีฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่ การเปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถปรับเปลี่ยนสีและขนาดของสินค้าได้ตามต้องการ พร้อมทั้งตั้งค่าให้เพื่อนเห็นรายการ Wishlist เพื่อให้การเลือกของขวัญตรงใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ตั้งเวลาส่งเวาเชอร์ ช่วยให้ไม่พลาดการมอบของขวัญในวันสำคัญ
เรียกว่าบริการนี้จะช่วยให้การให้ของขวัญเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย โดย คาดว่าจะพร้อมให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
และบริการสุดท้าย คือ “LINE HEALTH” โดยบริการนี้ต่อยอดจุดแข็งด้านการสื่อสารของ ไลน์ในการเชื่อมต่อผู้ใช้กับผู้ให้บริการทางการแพทย์ออนไลน์ เพื่อลดข้อจำกัด สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาล หรือไม่มีเวลาเดินทางมาหาหมอ ครบจบที่เดียว เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วย

โดยมีทั้งบริการจาก Health At Work ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่พร้อมเชื่อมต่อกับประกันสุขภาพชั้นนำ รวมถึงการปรึกษาสุขภาพจิตโดย OOCA ผู้ให้บริการปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญทางออนไลน์
นอกเหนือจากนี้ “LINE HEALTH” ยังมีการอัปเดตความรู้ด้านสุขภาพแก่ผู้ใช้งานอีกด้วย และเร็ว ๆนี้ จะเตรียมเปิดบริการ Health Shop ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งขยายเครือข่ายความร่วมมือ เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ รวมไปถึงการให้บริการสำหรับผู้ถือสิทธิบัตรทอง เพื่อให้ LINE HEALTH ครอบคลุมทุกด้านของบริการสุขภาพทางออนไลน์สำหรับคนไทยทั่วประเทศ โดบบริการ“LINE HEALTH” พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ในระยะทดลอง โดบสามารถเพิ่มเพื่อนบัญชีทางการเพื่อใช้บริการได้ที่ @LINEHEALTH
ทั้ง 3 บริการใหม่ถือเป็นบริกการสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับธุรกิจนั้น ได้มีการเปิด กลยุทธ์ระดับโลก ที่พร้อมบุกตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการของสองธุรกิจ คือ IP Business ภายในกลุ่มบริษัท ไลน์ อย่าง IPX ซึ่งเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิมคือ LINE FRIENDS ที่พัฒนาสู่การเป็นครีเอทีฟสตูดิโอผู้สร้างสรรค์และพัฒนาคาแรกเตอร์ที่เติบโตเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งระดับโลก สามารถสร้างสรรค์ IP ต่าง ๆ ครองใจเหล่าแฟน ๆ ทั่วโลก

ขณะที่ฟาก LINE WEBTOON ผู้นำแพลตฟอร์มเว็บตูนอันดับหนึ่งของโลกและในไทย เตรียมขยายโอกาสทางธุรกิจที่ต่อยอดจากคอนเทนต์เว็บตูนสู่ IP Business เช่นเดียวกัน ซึ่งสองบริการพร้อมขนไลน์อัปคาแรกเตอร์ – คอนเทนต์และโปรเจกต์ที่พร้อมเปิดรับพาร์ทเนอร์หลากหลายรูปแบบในปี 68 นี้เช่นกัน
นอกจากนี้ในมุมของนักพัฒนา ทางไลน์ ได้เปิดตัว “LINE MINIAPP” ที่เป็นการขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์มให้นักพัฒนาสามารถสร้าง App ของตัวเองบน ไลน์ ได้ด้วย ช่วย ลดข้อจำกัดในการพัฒนา Native App ที่ใช้เวลาและทรัพยากรสูง เป็นพื้นที่ให้นักพัฒนาสร้างบริการบน ไลน์ ให้ลูกค้าผู้ใช้งานเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ครบครัน โดยมีการแนะนำ LINE MINIAPP Playground พื้นที่ให้นักพัฒนาสามารถทดลองสร้าง MINIAPP ของตนเองได้ก่อนพัฒนาจริง
ขณะเดียวกันยังได้มีการเปิดตัว “LINE DEVELOPER PARTNER” โปรแกรมส่งเสริมศักยภาพนักพัฒนาไทย เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเข้าถึงการสนับสนุนรอบด้านจาก ไลน์ เพื่อต่อยอดเป็นพาร์ทเนอร์องค์กรนักพัฒนาชั้นนำระดับประเทศ โดย ไลน์ พร้อมเปิดรับสมัครองค์กรนักพัฒนาทั่วไทย โดยองค์กรที่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับการสนับสนุนจาก ทั้งในด้านทักษะความรู้เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ การสนับสนุนด้านการตลาด และโอกาสในการร่วมโปรเจกต์กับพาร์ทเนอร์ธุรกิจองค์กรต่าง ๆ ด้วย
ทั้งหมดเป็ยความเคลื่อนไหวต่างๆ ของไลน์ ที่ผู้ใช้งาน และพาร์ทเนอร์ จะได้เห็นในปีนี้!!!
Cyber Daily