เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 68 “จอนนี่ มือปราบ” หรือ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ตะลึงกรุงจอนนี่ มือปราบ” บอกเล่ามุมมองอีกด้านของ “ผกก.โจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล วัย 43 ปี อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังจากเสียชีวิต

ตั้งแต่คดี “ผู้กำกับโจ้” ผ่านมา 3 ปี มีสื่อต่างๆ อยากสัมภาษณ์ผม อยากได้ยินจากปากผมถึงประเด็นคดีตำรวจนครสวรรค์ ที่เป็นข่าวดังในเวลานั้นจนถึงเวลานี้กันเป็นจำนวนมาก ในฐานะที่เขามองว่าผมคือตำรวจชื่อดังที่อยากได้ยินและให้วิเคราะห์ มาวันนี้ผู้กำกับโจ้ ได้เสียชีวิตไป ตามที่เป็นข่าว ที่กำลังถกเถียงกันมามากมาย วันนี้ ผมขอมาเอ่ย มาพูดถึงในคดีนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่เป็นข่าว ให้ทุกๆท่านได้อ่านจากมุมมองความคิดของผม ก่อนอื่นผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเหยื่อที่ถูกกระทำ ของผู้กำกับโจ้และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้กำกับโจ้ที่เสียชีวิตเช่นกัน

คดีนี้จุดเริ่มต้น ผมขอถอดบทเรียนในพฤติการณ์วันเกิดเหตุเพื่อให้ตำรวจรุ่นน้อง เพื่อเป็นกรณีศึกษาคือ การกระทำต่อผู้ต้องหาวันนั้นผมมองว่าผู้กำกับโจ้ แกอาจขาดสติขาดการยับยั้งชั่งใจ ขาดการวางแผนการในยุทธวิธีที่ถูกต้อง ผมมองว่าแกพลาด พลาดตั้งแต่วิธีคิดมากกว่าเจตนาที่แกจะกระทำ เจตนาแกคือจะขยายผล ไม่ใช่ต้องการฆ่า แต่วิธีการที่ผิดพลาดจึงนำไปสู่การตาย

หนึ่งคือแกกระทำด้วยขาดการดำเนินการตามวิธี การขยายผลที่ถูกต้องตามหลักของนักสืบ คือ การที่จะเอาถุงดำครอบหัว เพื่อบังคับให้ผู้ต้องหาคายความลับ เค้นหาคำตอบ มันผิดหลักและวิธีการอย่างยิ่ง ผู้ต้องหาจะไม่สามารถตอบโต้กับเราได้เลย ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการในเวลานั้น แกก็เพียงเพื่ออยากหาความจริงและขยายผล แต่วิธีการมันผิดหลักเป็นอย่างมาก ผมผ่านงานสืบกับปรมาจารย์นักสืบมามากมาย ผ่านการขยายผลมือปืน ยาเสพติด คดีปล้น ฆ่า และเรียนรู้วิธีการกับนักสืบเก่งๆ รุ่นเก่าๆ เขาไม่เคยพาผมทำในลักษณะนี้ สุดท้ายการกระทำในลักษณะนี้ จะส่งผลต่อผู้ต้องหาขาดอากาศหายใจ

สองการกระทำที่ขาดการตรวจสอบสภาพแวดล้อม ในห้องปฏิบัติการจนมีผู้ติดตั้งกล้องวงจรปิดและผู้นำกล้องวงจรปิด มาเผยแพร่ ถือว่าการทำงานด้านงานสืบสวนไม่มีความละเอียดจนนำสู่หลักฐานมัดตัวตนเอง แกอาจจะกระทำไปด้วยความพลั้งเผลอ ขาดความยั้งคิด คงด้วยความเป็นหัวหน้าหน่วย อยากแสดงถึงความเป็นผู้นำถึงได้กระทำในห้วงวินาทีที่มันผิดพลาดหลายขั้นตอน หากพูดแบบบ้านๆ คือคราวซวยจะเกิดกับแกด้วยละเลยพลาดไปหมด

วันนี้ผู้กำกับโจ้แกได้เสียชีวิตไป ผมมองว่าคงเป็นไปด้วยเรื่อง สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ชีวิตคืนชีวิต บางคนนำคลิปมาปล่อย เพื่อให้เป็นข่าวเพื่อทำลายหลายชีวิตให้ตนเองมีชื่อเสียงตอนนี้ก็ไปติดคุกอีกนี่คือเวรกรรม

“แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่ผู้กำกับโจ้ ทิ้งไว้ให้ผมชื่นชม ของคำว่าเจ้านายคน คือวันที่แกถูกจับกุมตัวนำมาแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนั้นผมจดจำได้ดี ผบ.ตร. ได้สัมภาษณ์แกด้วยการโฟนอินเข้ามาในโต๊ะแถลงข่าว แกพูดด้วยคำพูดของลูกผู้ชาย ในฐานะผู้นำคือ “ความผิดทั้งหมด ลูกน้องผมทุกคนไม่เกี่ยวข้อง ผมรับผิดคนเดียว ผมทำคนเดียว สิ่งที่ผมทำ ผมอยากขยายผลเพื่อหาแหล่งส่งยา เพื่ออยากให้ยาในจังหวัดนครสวรรค์หมดไป” นี่คือคำพูดของลูกผู้ชายผิดแกรับผิดและปกป้องลูกน้องที่ในยุคนี้ หายากยิ่งกับลูกพี่แบบนี้ที่กล้าจะมารับผิดช่วยลูกน้อง ปกป้องลูกน้องของตนเอง จนวันสิ้นอิสรภาพ และจนมาหมดลมหายใจ”

Rip ครับผู้กำกับโจ้ สติ ความยับยั้งชั่งใจ การคิด การวางแผน การใส่ใจในรายละเอียดของงานสืบสวน ตำรวจที่ยังอยู่ จงนำมาถอดบทเรียน ไม่มีใครอยากให้ผิดพลาดแน่นอน.