สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ว่า พนักงานหลายร้อยคนของวีโอเอ, วิทยุเอเชียเสรี (อาร์เอฟเอ), วิทยุยุโรปเสรี (อาร์เอฟอี) และสื่ออื่น ๆ ได้รับอีเมลที่ระบุว่า พวกเขาจะถูกห้ามไม่ให้เข้าสำนักงาน รวมถึงควรมอบบัตรสื่อมวลชน และอุปกรณ์ที่ออกโดยสำนักงาน
ทรัมป์ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า สำนักงานสื่อโลกของสหรัฐ (ยูเอสเอจีเอ็ม) อยู่ในองค์ประกอบระบบราชการของรัฐบาลกลางที่ประธานาธิบดีกำหนดไว้ว่า “ไม่มีความจำเป็น” ส่วนนางคารี เลค ผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลยูเอสเอจีเอ็ม กล่าวในอีเมลถึงสื่อต่าง ๆ ว่า เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ไม่ทำให้เกิดลำดับความสำคัญของหน่วยงานอีกต่อไป
ด้านทำเนียบขาวระบุเสริมว่า การตัดเงินทุนจะทำให้ผู้เสียภาษีไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อ “โฆษณาชวนเชื่อสุดโต่ง” อีกต่อไป นับเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีครั้งใหญ่ต่อเครือข่ายที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขยายอิทธิพลของสหรัฐในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวเพื่อยุติการดำเนินงานของสื่อที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐ น่าจะเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากสภาคองเกรสมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการควบคุมงบประมาณ และอาร์เอฟเอ ก็ได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในอดีต
อนึ่ง นายไมเคิล อับราโมวิตซ์ ผู้อำนวยการของวีโอเอ กล่าวว่า เขาเป็นหนึ่งในพนักงาน 1,300 คนที่ถูกพักงาน พร้อมกับเสริมว่า วีโอเอจำเป็นต้องปฏิรูปอย่างรอบคอบ และมีความคืบหน้าในประเด็นนี้ แต่ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐ จะทำให้วีโอเอไม่สามารถดำเนินภารกิจสำคัญได้
ขณะที่องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (อาร์เอสเอฟ) ประณามการตัดสินใจของรัฐบาลวอชิงตัน โดยระบุว่าเป็นการคุกคามเสรีภาพสื่อทั่วโลก และลบล้างประวัติศาสตร์นาน 80 ปีของอเมริกา ในการสนับสนุนการไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี.
เครดิตภาพ : AFP
