สำนักข่าวบีบีซีรายงานกรณีของวัยรุ่นชายอายุ 17 ปี 2 คนก่อเหตุน่ารังเกียจภายในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวของเครือข่ายร้านหม้อไฟชื่อดัง “ไหตี่เลา” ของจีน สาขาเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้โดนจับกุม 

วัยรุ่นทั้งสองซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาได้ปีนขึ้นไปยืนบนขอบโต๊ะแล้วปัสสาวะใส่หม้อน้ำซุป หลังจากนั้นได้มีผู้นำคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวไปโพสต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้คลิปนั้นกลายเป็นไวรัลและส่งผลให้ทางร้านต้องยอมจ่ายค่าชดเชยให้ลูกค้าที่มาใช้บริการในสาขานั้นราว 4,000 ราย

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางร้านยอมรับว่า ในคืนนั้น พนักงานของร้านไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำของวัยรุ่นทั้งสองได้ และอ้างว่า พวกเขาไม่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอขึ้น แต่มารู้เรื่องในอีก 4 วันต่อมา 

หลังจากนั้น บริษัทซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายร้านหม้อไฟมากกว่า 1,000 แห่งทั่วโลก ใช้เวลาจนถึงวันที่ 6 มี.ค. 2568 เพื่อสืบหาและยืนยันสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้

ปกติแล้ว การรับประทานอาหารในร้านไหตี่เลาจะใช้หม้อไฟประจำโต๊ะแยกกัน ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่า ไม่มีโอกาสที่ลูกค้ากลุ่มอื่นจะรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะของสองวัยรุ่น

อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีความชัดเจนว่า หม้อไฟบนโต๊ะที่วัยรุ่นหนุ่มปัสสาวะใส่นั้น ได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ก่อนที่จะนำไปให้ลูกค้ารายต่อไปใช้งานหรือไม่

ด้านไหตี่เลาประกาศยืนยันว่า อุปกรณ์หม้อไฟและอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหารภายในร้านทั้งหมดได้รับการเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ส่วนถ้วยชาม ตะเกียบและอุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเรียบร้อยแล้ว

ไหตี่เลามีสาขามากกว่า 1,000 แห่งทั่วโลก (Zhang Peng/LightRocket via Getty Images)

“เราเข้าใจดีว่าความเดือดร้อนที่ลูกค้าของเราได้รับจากเหตุการณ์นี้ไม่สามารถชดเชยได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ “เรายินดีที่จะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น”

รายงานข่าวระบุว่า ทางร้านได้แจ้งความเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเจียนหยาง มณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัท และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้จับกุมวัยรุ่นชายทั้งสองแล้ว

ส่วนลูกค้าที่เข้าไปรับประทานอาหารระหว่างวันที่ 24 ก.พ.-8 มี.ค. 2568 จะได้รับการคืนเงินค่าอาหารทั้งหมดพร้อมค่าชดเชยอีก 10 เท่าของค่าอาหารตามใบเสร็จรับเงิน

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES