สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ว่า บริษัทโมเดอร์นาปรับลดคาดการณ์รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 “สไปค์แวกซ์” ในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระหว่าง 15,000-18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 498,450-598,140 ล้านบาท ) จากเดิมซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 664,600 ล้านบาท )
ขณะที่ปริมาณการส่งมอบวัคซีนจะอยู่ที่ประมาณ 200-800 ล้านโด๊สในปีนี้ ลดลงจากเป้าหมายเดิม คือ 800-1,000 ล้านโด๊ส โดยรายงานของโมเดอร์นาระบุว่า จำเป็นต้องเลื่อนการส่งมอบวัคซีนบางส่วนออกไปเป็นปีหน้าแทน และจะเพิ่มการส่งมอบสินค้าให้กับโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ซึ่งน่าจะช่วยให้รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนในปีหน้า เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระหว่าง 17,000-22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีหน้า ( ราว 564,910-731,060 ล้านบาท )
Moderna cut its full-year sales forecast for its COVID-19 vaccine to between $15 billion and $18 billion from $20 billion estimated previously, as it struggles to ramp up production of its two-dose vaccine. Read more https://t.co/ouab7i3BWC pic.twitter.com/Qu4Zul99Bf
— Reuters Business (@ReutersBiz) November 4, 2021
ทั้งนี้ โมเดอร์นายอมรับว่า ขั้นตอนการบรรจุวัคซีนลงขวด การปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ และกระบวนการส่งออกวัคซีนในต่างประเทศยังคงมีปัญหา โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งมีสภาพอากาศร้อน แต่วัคซีนของโมเดอร์นาเหมือนกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่งให้ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหลายสิบองศาเซลเซียส ทำให้ต้องใช้เวลาดำเนินการนานขึ้น แต่บริษัทกำลังเร่งปรับปรุง ด้วยการเพิ่มงบประมาณพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ปัญหาเรื่องการผลิตและการส่งมอบ วัคซีนของโมเดอร์นายังคงเป็นที่จับตาเกี่ยวกับผลข้างเคียงกับกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจ ทำให้คณะกรรมการอาหารและยา ( เอฟดีเอ ) เลื่อนการพิจารณาใช้วัคซีนของโมเดอร์นากับผู้มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ออกไปก่อน แต่ผู้บริหารของโมเดอร์นายืนยัน “ไม่พบความเสี่ยงสูง” ที่จะเกิดภาวะดังกล่าวกับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES