เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก ที่จะทำให้ประชาชนไม่พอใจ จึงอยากให้รอฟังว่า เราจะพูดถึงเรื่องนี้ และมีหมัดเด็ดอย่างไร และต้องฝากประชาชนให้ช่วยติดตามด้วย เพราะภายหลังมีการเคาะเวลาล่าสุด ปรากฏว่า เราจำเป็นต้องอภิปรายตั้งแต่ 08.00-05.30 น. ของอีกวัน ซึ่งข้อดี คืออาจจะไม่ค่อยมีคนประท้วงในช่วงนั้น ทำให้เราสามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียคือ ประชาชนอาจจะพลาดการรับชมสด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่หน้าทีวีอีกต่อไป นอกจากคนอภิปราย และนักข่าว ส่วนตัวเด็ดๆ จะมาในช่วงเวลาไหนนั้น ตนยังบอกไม่ได้จริงๆ แต่ยืนยันว่า จะมีการกระจายไฮไลต์ทุกวันแน่นอน แต่จะอยู่ในช่วงเวลาไหน ยังบอกไม่ได้ เพราะเดี๋ยวโดนว่าเข้าไปยุ่มย่ามวุ่นวายกับพยานหลักฐาน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ส่วนความเป็นไปได้ ที่อาจมีการขยายเวลาอีก 1 วันนั้น ปัญหาคือ หากมีการประท้วงจนรัฐบาลใช้เวลาของตัวเอง ที่รวมกับเวลาชี้แจงของนายกรัฐมนตรี จนเกิน หรือหมดแล้ว และฝ่ายค้านยังพูดไม่ครบเวลา เราก็ได้ขอคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลแล้วว่า จะให้เราอภิปรายต่อจนครบเวลา และขอเรียกร้องกับฝ่ายรัฐบาลให้รักษาสัจจะที่เคยให้ไว้ให้ ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมกันกดดันเรื่องนี้ด้วย

“เราถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว อภิปรายถึงตีห้าครึ่ง ดิฉันยังรู้สึกเคืองคนที่ไปเจรจาอยู่เลยว่า ได้เวลาแบบนี้ได้อย่างไร” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีการจัดกลุ่มผู้อภิปรายแน่นอน ทั้งเรื่องนโยบาย การคอร์รัปชั่น และปัญหาอื่นๆ แต่ไม่มีกลุ่มที่เป็นเรื่องบุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะ ย้ำว่า เราอภิปรายที่ตัวนายกรัฐมนตรี สำหรับคนที่เกี่ยวข้อง หรือคนในครอบครัวเป็นส่วนเสริมเข้ามา ดังนั้น ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เราไม่ได้อภิปรายฯนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เราอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากปัญหาการที่เขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ส่วนการตอบโต้ผ่านโปสเตอร์อภิปราย ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนนั้น เป็นธรรมดาของการเก็งข้อสอบ ซึ่งมีการเก็งผิดบ้างเป็นเรื่องปกติ การรีบออกตัวไปหน่อย ก็อาจจะทำให้ดูร้อนตัว หรือร้อนรน เพราะยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจะพูดเรื่องอะไร การออกมาพูดเรื่องหลงประเด็น เราก็งงว่า ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลกันแน่ ที่หลงประเด็น

น.ส. ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า  กังวลทุกวัน ยังต้องทำงานอย่างปิดเงียบเป็นความลับ พยายามเก็บข้อมูลให้มีคนที่ทราบน้อยที่สุด ซึ่งสื่อก็น่าจะอยากรู้ มีคำถามเข้ามาเรื่อยๆ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง แต่เราต้องขอเก็บแต่ความลับจริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ตัวผู้อภิปรายเอง ก็อาจจะมีปัญหาในการโทรฯ มาล็อบบี้ ไม่ให้ไปพูดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือพยานหลักฐานต่างๆ ที่เคยมีอยู่ ก็อาจจะหายวับไปตาก็ได้

เมื่อถามถึงธีมในการที่อภิปราย ดีลแลกประเทศนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มาจากการที่ประเทศต้องสูญเสียไปเท่าไร กับการที่นายกรัฐมนตรีเข้าสู่อำนาจ และเพื่อให้บิดาได้กลับมาบ้าน เราต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และการนำผลประโยชน์ประเทศมาต่อรอง ที่ทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสไปเท่าไร

เมื่อถามฝ่ายรัฐบาลดูร้อนตัวใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวติดตลกว่า “อั๊วไม่ร้อน แต่ลื้อดูร้อน เพราะในช่วงนี้มีการโปรโมตผลงานเป็นระยะ เหมือนเตรียมตัวที่จะรับการอภิปราย ซึ่งเราก็เก็งคำตอบเช่นเดียวกัน ว่ารัฐบาลจะตอบว่าอะไร ผ่านการที่เขาดูร้อนรนแบบนี้ ก็ขอบคุณที่ร้อนตัว และโชว์ผลงานใหญ่เลย”

เมื่อถามย้ำว่าคนไหนดูร้อนที่สุด น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ คิดว่านายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นร้อนที่สุดอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้อภิปรายคนอื่น รองลงมาอาจจะพ่อนายกรัฐมนตรี เพราะกรณีที่เราถามว่า จะอภิปรายเรื่องนายทักษิณได้หรือไม่ แทนที่เขาจะตอบว่า ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่เขากลับตอบกว่า เป็นการไม่ทำตามกติกา จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะใจกว้างมากกว่านี้ เรามีหมัดเด็ดหลายเรื่อง รอบนี้ของจริง มีคนร้อนแน่นอน

ส่วนคิดถูกหรือไม่ ที่เลือกอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า รู้สึกว่าคิดถูกมาก เพราะตอนแรกตนก็เป็นเสียงข้างน้อย ที่ไม่อยากเปลี่ยน แต่ตอนนี้รู้สึกว่า หากพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว และส่วนที่เหลือไม่ได้เอาไปต่อรองหรือหมกเม็ดอะไร พอเปิดสมัยประชุมหน้า ในเดือน ก.ค. ก็รอติดตามภาคต่อไปได้เลย เพราะขึ้นใหม่แล้ว สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีกรอบ.