เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์ สำหรับคุณแม่บ้าน หรือผู้รักความสะอาดที่ต้องล้างห้องน้ำ ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Kanyanut Raengnarong ได้โพสต์เตือนในกลุ่มงานบ้านที่รัก หลังเธอใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวผสมน้ำนำมาทำความสะอาดห้องน้ำ แต่เมื่อน้ำยาดังกล่าวไปโดนกับสเปรย์ทำความสะอาดกระจก กลับเกิดปฏิกิริยาที่ส่งผลให้เธอคลื่นไส้ ใจสั่น หัวใจเต้นแรง ก่อนจะต้องไปหาหมอ และถูกให้แอดมิด 2 วันในที่สุด

โดยเธอระบุเรื่องราวเอาไว้ว่า “อ่านให้จบค่ะดิฉันไม่ได้คิดสูตรไฮเตอร์ผสมน้ำยาอื่นแต่อย่างใด” สวัสดีค่ะแม่บ้านทั้งหลาย วันนี้ปูจะขอแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับไฮเตอร์ล้างห้องน้ำค่ะ แม่บ้านทั้งหลายต้องระวังค่ะ

เกริ่นก่อนว่าลักษณะห้องที่อยู่เป็นคอนโดฯ ประมาณ 30 ตรม. ห้องน้ำและห้องนอนห่างกันแต่ไม่ได้กั้นโซนชัดเจน ปกติปูใช้ไฮเตอร์ล้างห้องน้ำ ผสม 2 ฝาต่อน้ำ 2 ลิตร ล้างคราบเชื้อราถือว่าดีเลิศ สะอาดสุดๆ ครั้งนี้ก็ทำเหมือนเดิมค่ะ ผสมน้ำ เทราดพื้นทิ้งไว้ซักพัก ถึงเวลาก็เข้าไปขัดๆที่พื้น พื้นสะอาดแล้ว เหลือบไปเห็นกระจกกั้นอาบน้ำสกปรก ในใจคิดว่า ไม่ได้จ่ะ พื้นฉันสะอาดแล้วกระจกฉันต้องใสด้วย เลยขัดกระจกต่อด้วยสเปรย์ทำความสะอาดกระจกกั้นอาบน้ำยี่ห้อหนึ่ง ฉีดๆพ่นๆไป แล้วขัดซักพัก กระจกใสปิ๊งค่ะประทับใจ สะอาด ครบแล้วก็ฉีดน้ำเปล่าล้างน้ำยาออก ทั้งกระจกและพื้น ความ-ิบหายเกิดตรงนี้ค่ะ

“น้ำยาจากกระจกลงมาผสมกับไฮเตอร์ที่พื้น ทำปฏิกิริยากัน แต่เราไม่ได้รู้สึกอะไรขณะนั้นนะคะ ได้แค่กลิ่นหอมของน้ำยาฉีดกระจกอยู่อ่อนๆ ผ่านไป 3 ชั่วโมง นอนอยู่กำลังจะหลับ เริ่มรู้สึกอยากจะอาเจียน ใจสั่น มือสั่น วัด pluse oximeter ปลายนิ้วหัวใจเต้น 129-134 คุณพระตกใจมาก ช่วงตกใจพุ่งไปถึง 140 เลยตั้งสติแล้วเลิกตกใจก่อนค่ะ กลัวตาย”

รีบโทรฯหา ER พยาบาลแนะนำให้ออกมาสูดอากาศด้านนอก ดื่มน้ำเยอะๆ ไม่หายค่าาทุกคนใจสั่นอย่างต่อเนื่อง ดูอาการประมาณ 1 ชั่วโมงไม่ดีขึ้นตัดสินใจขับรถไป รพ.เองเลย เพราะอยู่คนเดียวด้วย เคอร์ฟิวแล้วด้วย (เราอยู่ใกล้รพ.) มือก็สั่น ใจก็สั่น โดนแอดมิทอยู่ 2 คืนค่ะ

คุณหมอปรึกษาเคสกับศูนย์พิษวิทยา สรุปว่าเราอาจจะสูดดมก๊าซที่เกิดจากการทำปฏิกิริยากันเป็นเวลานาน โชคดีของเราก็คือเราเจือจางไฮเตอร์ก่อนใช้ ก๊าซที่ออกมาเลยไม่ได้มีความเข้มข้นรุนแรงจนทำให้หมดสติ ระมัดระวังการใช้ไฮเตอร์ล้างห้องน้ำกันด้วยนะทุกคน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยให้ข้อมูลเอาไว้ว่า น้ำยาซักผ้าขาว มักจะมีส่วนผสมของสารเคมีที่ชื่อ โซเดียมไฮโปคลอไรต์ (sodium hypochlorite NaClO) ซึ่งเมื่อเจอกับ กรดไฮโดรคลอริก (hydrochloric acid HCl) จะทำให้เกิดสารคลอรีน นอกจากนี้ ยังอาจจะเกิดสารอันตรายได้เมื่อเจอกับสารเคมีอีกหลายตัวในผลิตภัณฑ์ใช้ในครัวเรือน ดังนั้นจึงไม่ควรให้น้ำยาใด ๆ มาผสมกันเป็นดีที่สุด..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Kanyanut Raengnarong