เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่รัฐสภา นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน​ กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกที่ผ่านมา ว่า​ ยังไม่ได้รับคำตอบจาก น.ส.แพทองธาร​ ชิน​วัตร นายกฯ กรณีถือครองที่ดินโรงแรม​เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่​ มีเพียงนายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงแทน แต่ตนยังมีความสับสนอยู่ เพราะนายวราวุธ อ้างถึงประกาศคณะปฏิวัติปฏิวัติ พ.ศ. 2515 ซึ่งปีดังกล่าวเป็นการจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง แต่ไม่ได้ยกเลิกมติ ครม. ปี​ 2514 ที่กำหนดว่าพื้นที่แปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร แสดงว่าประกาศคณะปฏิวัติไม่ได้ยกเลิกพื้นที่ต้นน้ำลำธารตามมติคณะรัฐมนตรี 2514 แสดงว่าพื้นที่ต้นน้ำลำธารยังคงอยู่ และเมื่อปี 2567 คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ของสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอข้อมูลไป และมีการส่งแผนที่ของที่ดินแปลงดังกล่าวมาให้ ก็ยังปรากฏว่าเป็นที่ดินต้นน้ำลำธารยังคงอยู่ และถ้าที่ดินต้นน้ำลำธารยังอยู่ ตามประมวลกฎหมายที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ข้อ 14(5) ก็ออกโฉนดไม่ได้ 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ล่าสุดการชี้แจงของกรมที่ดิน น่าแปลกใจและน่าตกใจมากๆ ​ที่คณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ​ จึงขอตั้งคำถามว่ามติของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ ลบล้างมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2514 ได้หรือไม่ ซึ่งกรมที่ดินต้องยืนยันว่า มติ คณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ ดังกล่าว ใหญ่กว่ามติคณะรัฐมนตรีได้อย่างไร ศักดิ์และสิทธิ์ของกฎหมายเป็นอย่างไร และสิ่งสำคัญที่สุดอยากให้สื่อเข้าไปดูมติของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ โดยเฉพาะกรมที่ดิน ซึ่งเป็นผู้ประกาศกฎในรายละเอียดบอกว่าให้สิทธิการครอบครอง แต่ไม่ได้ให้กรรมสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าถ้ายึดตามมติคณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ ที่ดินแปลงนี้ ไม่ได้ให้กรรมสิทธิ์แต่ให้สิทธิครอบครอง ก็ยังยืนยันว่าออกโฉนดไม่ได้ คำถามไม่ได้คือการออกโฉนดแล้วถูกกฎหมาย แต่คำถามคือออกโฉนดมาได้อย่างไร ที่ตรงนั้นเป็นที่ต้นน้ำลำธาร ตรงนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ตอบสังคม และชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้ประชาชนรับทราบ