จากกรณีที่นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเขต 7 จ.สงขลา ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาการศาสนาศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ถึงการที่ศาลแพ่งพระนครใต้ ได้มีคำสั่งถึงสำนักงานบังคับคดี อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อให้ยึดที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งวัดวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.นาทวี จ.สงขลา ขายทอดตลาด เพื่อนำเงินไปชดใช้ให้กับโจทก์ผู้ฟ้องคือ บริษัทธนบุรีลิสซิ่ง ซึ่งกลายเป็นข่าวที่สร้างความสนใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะบรรดาพุทธบริษัทเป็นอย่างยิ่ง เพราะกรณีการยึดวัดเพื่อขายทอดตลาดยังไม่เคยปรากฏขึ้นในประเทศนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายเสรี ชูเพ็ง ผอ.สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา สาขานาทวี ศาลจังหวัดนาทวี ได้เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับ ทนายความ เจ้าอาวาส และไวยาวัจกร วัดวังใหญ่ เพื่อหาทางออกในการที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้สั่งให้มีการยึดทรัพย์ของนางอำไพ อัมพุกานน ขายทอดตลาด ตามที่โจทก์ คือ บริษัทธนบุรีลิสซิ่งพาณิชย์ จำกัด ได้ยื่นร้องต่อศาล เนื่องจากนางอำไพ ได้เช่าซื้อรถเบนซ์จากโจทก์เมื่อปี 2541 และไม่ได้จ่ายค่างวด และจากการสืบทรัพย์พบว่า นางอำไพ ครอบครองที่ดินหมายเลข น.ส.3 ก.ที่ 4156,4644 เนื้อที่ 27 ไร่ ศาลจึงได้ดำเนินการสั่งขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ดังกล่าว ซึ่งปรากฏในภายหลังว่า ที่ดินทั้ง 2 แปลง เป็นที่ตั้งของวัดวังใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ กม.40 ถนนเพชรเกษม ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.เขต 7 สงขลา พรรคภูมิใจไทย ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นร้องต่อกรรมาธิการศาสนาฯ เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือ เนื่องจากไม่เคยปรากฏเรื่องศาลสั่งยึดวัดเพื่อขายทอดตลาด

คดีน่าสนใจ! นัดเจ้าหนี้ 8 พ.ย.แถลงยืนยัน บังคับคดี ‘ยึดวัดวังใหญ่’ ขายทอดตลาด

โดยนายเสรี กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ ฝ่ายโจทก์ไม่ได้มา แต่ได้มอบให้สำนักงานบังคับคดี อ.นาทวี เป็นผู้แทนในการตรวจสอบที่ดินแปลงที่มีการสั่งขายทอดตลาดว่า เป็นที่ตั้งวัดจริงหรือไม่ ซึ่งสำนักงานบังคับคดีได้ตรวจสอบสถานที่ เอกสารสิทธิ หนังสือยกที่ดินให้วัดจาก นายไสว ณ พัทลุง และนางอำไพ อำพุกานน เอกสารถูกต้องทุกอย่าง เพียงแต่ยังไม่มีการโอนที่ดังแปลงดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งการที่เจ้าของมีลายลักษณ์อักษร ยืนยันในการมอบที่ให้วัด ถือว่าวัดได้รับสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าวถูกต้อง และที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของวัดตามกฎหมาย ตั้งแต่มีผู้ยกให้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะได้ทำเป็นเอกสารส่งให้กับบริษัทธนบุรีลิสซิ่งพาณิชย์ จำกัด เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในการดำเนินการยกเลิกคดีการยึดที่ดินเพื่อขายทอดตลาดตามกฎหมายต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากขบวนการในการดำเนินการยึดทรัพย์และขายทอดตลาด ศาลจะพิจารณาเพื่อบรรเทาให้ โดยที่ทางวัดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

ในขณะที่พระครูสุวัฒนาภรณ์ นพรัตน์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดนาทวี ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้เปิดเผยว่า เจ้าคณะจังหวัดสงขลา มีความห่วงใยกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่ายังมีวัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ ที่มีลักษณะเดียวกันกับวัดวังใหญ่อีกมาก ที่การดำเนินการเรื่องที่ดินที่ตั้งวัดไม่เรียบร้อย จึงให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา และให้มีการตรวจสอบวัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ ที่มีผู้บริจาคที่ดินให้ เพื่อให้มีการจดทะเบียนให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ให้ถูกต้อง

นายณรงค์พร ณ พัทลุง อดีตปลัดจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบุตรชายของนายไสว ณ พัทลุง ผู้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว ถวายให้สร้างวัดวังใหญ่ เมื่อปี 2540 และเป็นผู้ทำหนังสือมอบที่ดินทั้งหมด 27 ไร่ ให้กับเจ้าอาวาสรูปเก่า ได้กล่าวว่าเรื่องที่เป็นข่าว อาจจะสร้างความเสียหายให้กับพ่อ ซึ่งเป็นอดีตสรรพสามิต จ.พัทลุง จึงขอแจ้งให้ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวข้อง ในส่วนของคุณพ่อได้ทำถูกต้องทุกอย่าง ส่วนเรื่องการซื้อรถเบนซ์ และการถูกฟ้องร้องเกิดขึ้นทีหลัง และในขั้นตอนการที่วัดถูกฟ้องร้อง ก็ได้ให้ทนายยื่นคัดค้านแล้ว จึงอยากจะให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด.