จากกรณี นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สนธิกำลังหลายหน่วยงาน ตรวจค้นบ้านเป้าหมาย พื้นที่หมู่ 5 บ้านแม่คะเมย ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังสืบทราบมีพรานป่าลอบเข้าไปยิงกระทิง เก้ง กวาง และอีเห็น ในผืนป่ามรดกโลกแก่งกระจาน โดยใช้อาวุธปืนสงคราม จุดประสงค์เพื่อการค้า และมีการเปิดปาร์ตี้นำสัตว์ป่ามาประกอบอาหารกิน กระทั่งสามารถจับกุมพรานป่าได้ 2 คน พร้อมของกลาง ปืนเอ็ม 16 ปืนอื่นๆ หลายกระบอก ซากกระทิง และสัตว์อื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยทั้ง 2 ซัดทอดไปถึงทนายความในภาคใต้ และเจ้าหน้าที่การประปานครหลวง ว่าเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของปืน โดยให้มาพักอาศัยบ้านหลังดังกล่าว เพื่อดูแลสวนยางพารา ซึ่งขบวนการนี้อาจโยงไปถึงตำรวจยศ พ.ต.ท. นายหนึ่งด้วย โดยมีพนักงานจ้างเหมาบริการ หรือลูกจ้างทีโออาร์ กรมอุทยานฯ ซึ่งขึ้นกับ สบอ.3 สาขาเพชรบุรี 1 คน ทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ คอยส่งข่าวชี้เป้าให้ขบวนการนี้ลักลอบล่าสัตว์ป่า และคอยส่งข่าวให้ขบวนการนี้ในการหลบหลีกการจับกุม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
แฉข้อมูลสุดช็อก ‘พ.ต.ท.’ ร่วมวงปาร์ตี้-ค้าสัตว์ป่า มีลูกจ้างทีโออาร์ สบอ.3 เพชรบุรี ชี้เป้า
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 นายนพพร ประทุมเหง่า ผอ.สบอ.3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พนักงานจ้างเหมาบริการ หรือลูกจ้างทีโออาร์ กรมอุทยานฯ ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยแม่เพรียง ซึ่งขึ้นกับ สบอ.3 สาขาเพชรบุรี 1 คน ออกจากงานไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อขยายผลเป็นการด่วนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ยอมไม่ได้ เนื่องจากสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อกรมอุทยานฯ ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ขณะนี้ ทนายความ และ เจ้าของที่แปลงที่ 1 ได้เดินทางเข้าให้การกับทางตำรวจและทางอุทยานฯ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว โดยปืนทราบเพียงว่าเป็นของ เจ้าหน้าที่การประปานครหลวง จากนั้นได้ยอมจ่ายค่าปรับคนละ 10,000 บาท ตาม ม.64 พ.ร.บ.อุทยานฯ และยอมรื้อบ้านที่ก่อสร้างรุกล้ำเขตอุทยานฯ ขณะที่ เจ้าหน้าที่การประปานครหลวง ยังไม่มีการประสานเข้าให้การแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ทราบความเคลื่อนไหวและที่อยู่แล้ว เช่นเดียวกับตำรวจยศ พ.ต.ท. อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.