เสี่ยวจาง (นามสมมุติ) ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีหนุ่มวัย 26 ปี จากเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน มักมีอาการปวดคอเนื่องจากต้องนั่งทำงานวันละหลายชั่วโมง หลังจากรู้มาว่า การนวดแผนโบราณสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดคอได้ เขาจึงตัดสินใจไปทดลองนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่งในท้องถิ่น
ในตอนแรก ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่มีช่วงหนึ่งที่เขารู้สึกเจ็บแปลบที่คออย่างรุนแรง ระหว่างที่หมอนวดกำลังใช้ท่านวดที่ออกแรงเค้นมาก ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
เสี่ยวจางไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับอาการเหล่านี้ แต่พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เขากลับตื่นขึ้นมาด้วยอาการชาและอ่อนแรงที่ซีกซ้ายของร่างกาย รวมถึงพูดไม่ชัด เขาจึงรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลประชาชนของมณฑลหูหนาน ด้วยความวิตก และได้รับการวินิจฉัยว่าเขามีภาวะเลือดออกในสมอง
ภาพถ่ายภาพซีทีสแกนและกระบวนการตรวจหลอดเลือดสมองของเสี่ยงจาง แสดงให้เห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ทำให้หลอดเลือดแดงคาโรติดด้านขวาฉีกขาด และสมองขาดเลือดเป็นระยะที่ 2
แต่เสี่ยวจางก็ยังโชคดีที่มาถึงโรงพยาบาลทันเวลา ทำให้เขารอดพ้นจากความเสียหายถาวรที่สมอง แพทย์ต้องรักษาอาการของเขาหลายด้าน ได้แก่ การใช้ยาบำบัดเพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด, ปรับการไหลเวียนโลหิตในหลอดเลือดให้ดีขึ้นและกำจัดอนุมูลอิสระออกซิเจน ซึ่งเป็นตัวทำลายโครงสร้างของเซลล์และก่อโรค
“หลอดเลือดแดงคาโรติด เป็นหลอดเลือดสำคัญที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง เมื่อชั้นในของผนังหลอดเลือดฉีกขาด เลือดจะซึมเข้าไปในผนังหลอดเลือดจนเกิด “ภาวะฉีกขาด” ซึ่งอาจทำให้เกิดการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอและกลายเป็นภาวะสมองขาดเลือดในที่สุด” ดร.หลิว หยาน จากแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาลที่รักษาเสี่ยวจางอธิบาย “นอกจากนี้ หลอดเลือดตรงคอเป็นหลอดเลือดที่อยู่ภายนอก และแรงกดภายนอกที่ไม่เหมาะสม (เช่น การนวดอย่างแรง การหมุนศีรษะกะทันหัน การบิดคอ) อาจทำให้หลอดเลือดได้รับความเสียหายโดยตรงได้”
ขณะที่ เสี่ยวจางกำลังรักษาตัว และพักฟื้นร่างกายจนกว่าจะหายดี
ที่มา : odditycentral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES