จากกรณีชาว ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นำโดย นางอำไพ ฤทธิ์คำรพ นายก อบต.แก่งเสี้ยน นางสาวณัฎฐ์ฌญา น้อยวิจิตร์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองจอก หมู่ 5 นายธนกร เกษมโสตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.แก่งเสี้ยน พร้อมด้วยชาวบ้านตำบลแก่งเสี้ยนจำนวนหนึ่ง ยื่นหนังสือให้นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 1 ช่วยเร่งรัดให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ที่ประกาศให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดนำร่องในการเข้าถึงไฟฟ้าและประปาได้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี เพื่อไทย เขต 1 ได้หารือกับ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ขณะนั่งเป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 30 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ว่า ข้อหารือในวันนี้ มีความหมายที่สำคัญต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานประเภทไฟฟ้าและน้ำประปา สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 67 ครม. มีมติให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดนำร่องให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐเข้าถึงไฟฟ้าและน้ำประปา โดยให้ผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 46 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นรายกรณีไป
นายอัครนันท์ กล่าวต่อว่า จากมติ ครม. ดังกล่าวที่ออกมานั้น มันเปรียบสเมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้กับพี่น้องชาวกาญจนบุรี ที่มีบ้านอาศัยแต่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้เป็นอย่างมาก มติ ครม. ได้สร้างความหวังให้กับประชาชนทุกครัวเรือน ทุกครอบครัวรู้สึกมีความหวังอีกครั้งที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงไฟฟ้าและน้ำประปา ที่ผ่านมาชาวบ้านหลายครอบครัวได้ทำงานเก็บออมเงินเอาไว้เพื่อสร้างบ้านขึ้นมาเพื่อความสมบูรณ์ของคนในครอบครัวที่จะได้มีบ้านอยู่อาศัยเป็นหลังแรก แต่เมื่อสร้างบ้านแล้วเสร็จกลับกลายเป็นทุกข์ เพราะไม่สามารถขอน้ำขอไฟได้ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้พยายามเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีใครลงไปช่วยแก้ไขให้พวกเขาอย่างจริงจัง
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้นำรวมทั้งชาวบ้าน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไฟฟ้าและน้ำประปา ได้พร้อมใจกันยื่นหนังสือ โดยมีรายชื่อครอบครัวที่ได้รับผลกระทบแนบมาด้วยส่งให้กับผม เฉพาะชาวบ้านบ้านหนองจอก หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน แค่หมู่บ้านเดียวมีมากถึง 61 ครัวเรือน หาก 1 ครอบครัว อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจะมีมากกว่า 200 คน ที่ยังไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ หากนำประชาชนทุกอำเภอ ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน เฉพาะพื้นที่เขต 1 ที่อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของผม ซึ่งประชาชนเลือกให้เข้ามาเป็นผู้แทนในสภา คงมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากมายมหาศาล
ดังนั้นการหารือผ่านท่านประธานรัฐสภาในวันนี้ ก็เพื่อต้องการขอความเห็นใจไปยังจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เร่งหาแนวทางให้ทุกครอบครัวเข้าถึงไฟฟ้าน้ำประปาให้เร็วที่สุด หากเป็นไปได้ขอให้กรมธนารักษ์ รวมถึง ส.ป.ก. และกองทัพบก ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ ให้ช่วยจับเข่าคุยกันในการร่วมแก้ไขปัญหานี้ให้กับชาวบ้านด้วยความจริงใจ อย่าโยนกันไปมาเหมือนในอดีตกันอีกเลย เพราะทั้งหมดประชาชนรอความหวังจากพวกท่านอยู่.
