เมื่อวันที่ 9 เม.ย. รายการโหนกระแส พูดคุยกันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 กรณีประเด็นร้อน “ท่านทิพย์” หลอกดาราสาว อ้างตัวเป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่โตในวงราชการ แอบอ้างว่าใกล้ชิดเบื้องสูง มีขบวนรถนำ ผู้ติดตามใส่ชุดข้าราชการ และมอบทรัพย์สินมีค่า เช่น ทองคำและแหวนเพชร ก่อนพบภายหลังว่าอาจเป็นของปลอม ทั้งยังมีการลวงให้โอนเงินโดยอ้างจะนำไปซื้อของขวัญให้นายกรัฐมนตรี
กระแสนี้ต่อเนื่องมาตลอดหลายวัน มีการขุดคุ้ยกันต่อ จนเจอผู้หญิงอีกหลายคนที่ ท่านทิพย์ รายนี้เคยไปจีบ ไปหลอกลวง พฤติการณ์คล้ายคลึงกัน โดยในวันนี้ รายการโหนกระแสได้พูดคุยกับผู้หญิง 4 คน คือ คะน้า ริญญารัตน์ ที่มานั่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 คนต่อมาคือ แก้ม สรัญรัตน์ นางแบบสาว ที่ออกมาเปิดเผยว่า เธอเองก็เคยถูก ท่านทิพย์ รายนี้จีบ และเปย์ด้วยสร้อยเพชร คุณปาล์มมี่ อดีตสาวที่เคยคบหากับนายฮอต และคุณกุ๊ก คนที่ไฮโซเก๊เคยจีบ โดยทั้ง 4 คนจะมาพูดคุยและเล่าเรื่องที่เคยเจอเหตุการณ์ในมุมของตัวเอง
ปาล์มมี่ ผู้หญิงอีกคนที่เคยคบหากับผู้ชายคนนี้ ตอนที่เข้ามาหา ประมาณปี 2559 รู้จักกันผ่านกลุ่มเพื่อน พามาทานอาหารที่ร้านของตน ตอนนั้นเขายังอายุน้อย เขามีแฟนอยู่ ช่วงที่มาเขาก็เคยพาผู้หญิงมา แล้วก็มาทานอาหารที่ร้านบ่อยๆ จนมีวันหนึ่งเขาร้องไห้มาที่ร้าน มาร้องว่า “พี่ แฟนผมไปแล้ว เขาไปแล้วพี่ เขาทิ้งผมแล้ว” มาทำให้เราสงสาร ร้องห่มร้องไห้ จนเราก็เลยมานั่งคุยกับเขา พี่สาวเราก็เลยให้เขามาอยู่ที่ตึกที่เราเช่าทำร้านอาหาร ให้เขาอยู่ชั้นหนึ่ง เพราะไม่อยากให้เขาไปเจอสภาพเดิมๆ เดี๋ยวจะเศร้า
ปรากฏว่าพอมาอยู่ทีนึงก็อยู่ยาวไม่ไปไหนเลย ยึดเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แล้วก็ออกไปทำงานบ้าง ตอนนั้นเขาอ้างว่าเขาเป็นนายหน้าค้าที่ดิน แล้วก็อ้างว่าเป็นทายาทโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) อ้างว่าสืบนามสกุลสิงหเสนีมาด้วย เราทราบว่าเขาเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ก็เลยติดต่อให้เขารู้จักกับนายทุนที่เป็นรุ่นพี่เรา หวังให้เขาทำธุรกิจกัน

แต่พอทำไปทำมา รุ่นพี่เรามาเล่าว่า นายไฮโซเก๊คนนี้ ไปทำพฤติกรรมแปลกๆ แอบไปคุยกับเจ้าของที่นอกรอบ เรียกเงินส่วนต่าง ทำอะไรที่ไม่ควรทำหลายอย่าง หนักสุดคือ ไปเจอว่ามีคดีเอาทรัพย์สินของผู้หญิงคนหนึ่งมา จนผู้หญิงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หัวหิน โดนตำรวจจับ ตอนนั้นเราคบหาเป็นแฟนกับเขาแล้ว ก็ตามไปหาที่โรงพัก พอไปถึงเขาก็ลงไปนอนชัก น้ำลายฟูมปาก เราร้องให้ตำรวจช่วย ตำรวจหันมาดูก็บอกว่า “มันไม่เป็นไรหรอก” พอไม่มีใครสนใจ เขาก็เลยหยุดชัก แล้วกลับขึ้นมานั่งเหมือนเดิม
หลังจากนั้น มีเรื่องที่เขาแอบปลอมไลน์ แอบอ้างว่าเขาคุยไลน์กับเบื้องสูง เราเอะใจหลายเรื่อง จนแอบย่องมาดู จนพบว่า ระหว่างที่ไลน์ของคนที่อ้างว่าเป็นเบื้องสูงที่พิมพ์คุยกับเรา ย่องมาดูเจอว่าเขากำลังนั่งพิมพ์อยู่เอง เราก็เลยไปแย่งมือถือเขามา จนมือถือมันหล่นแตก ปรากฏว่านายไฮโซคนนี้อาละวาด แกล้งทำเป็นโมโห ออกจากบ้านไป แล้วหลังจากนั้นก็มีอีเมลส่งมา อ้างว่าเป็นเบื้องสูง ส่งมาบอกว่า ทำไมถึงไปทำกับเขาแบบนั้น เขาตั้งใจทำงานอยู่ ไม่ให้เราไปตามสืบอะไรอีก
หลังจากนั้นมีเรื่องเขาจะแต่งงานกับเรา จะซื้อบ้าน บอกว่าซื้อบ้านรวดเดียว 3 หลัง จะแต่งงานกับเรา รวบรัดมากทั้งที่คบกันไม่กี่เดือน โดยอาศัยอ้างเบื้องสูงมาทำให้เรายอมตกลงแต่ง แต่พอถึงเวลาใกล้จะแต่งงานจริงๆ มาโกหกว่าโรงแรมถูกวางระเบิด แต่งไม่ได้
แล้วเรื่องนี้เสียหายมาก เพราะเขาอ้างว่าซื้อบ้านแล้ว จะให้เราย้ายออกจากอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น (ที่เช่าทำร้านอาหาร) เพื่อไปอยู่บ้านกับเขา แต่บ้านไม่มีอยู่จริง ทั้งที่เรายกเลิกสัญญาเช่าตึกไปแล้ว จนสุดท้ายไม่มีที่อยู่ เขาต้องลากเอาเราไปอยู่ในบ้านป้าของเขา ไปอยู่รวมกันในบ้านหลังเล็กๆ เพราะเขาอ้างว่า บ้านหลังใหญ่ของเขารีโนเวตอยู่
แล้วยังมีเรื่องเรื่องแอป “เฟคคอล (Fake Call)” ที่เขาจะตั้งเวลาให้มือถือตัวเองดัง เหมือนมีคนโทรฯ หา อ้างว่าเป็นเบอร์ของเบื้องสูง เราก็สงสัย เลยไปแอบโหลดแอปอัดเสียงไว้ในมือถือ ที่อัดไว้แบบไม่ให้รู้ตัว พอเราเอาเสียงมาฟังทีหลังถึงได้รู้ว่ามันพูดคนเดียว ไม่มีใครโทรฯ มา พูดว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่วังนะ ให้ทหารมาเปิดประตูรอนะ
แล้วก็ยังมีเรื่องที่ชายคนนี้ ไปหลอกให้ตนเปิดบัญชีรอไว้ เพราะจะมีเงินก้อนมหาศาลเข้ามาที่บัญชี หลอกให้เราไปนั่งรอที่ห้างทุกวี่ทุกวัน ทั้งที่ไม่มีจริง สร้างโปรไฟล์หลอกคนนั้นคนนี้ว่ามีเงิน คุยกับนายหน้าค้าที่ดิน อยู่ดีๆ ก็พานายหน้าคนนั้นไปดูรถ อ้างกับเขาว่าจะซื้อรถให้เรา ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องเลย