เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 8 เม.ย. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรที่พิจารณาศึกษาผลกระทบและมาตรการรับมือจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา เสนอโดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าว โดยพิจารณารวมกับญัตติด่วนด้วยวาจาที่มีหลักการทำนองเดียวกันอีกจำนวน 9 ญัตติ รวมเป็น 10 ญัตติ

โดยนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย 1 ใน 10 ผู้เสนอญัตติลุกขึ้นชี้แจงในญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแผนการรับมือจากภัยพิบัติธรรมชาติและผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก รวมทั้งภัยความมั่นคงจากสถานการณ์โลก ซึ่งถือเป็น 1 ใน 10 ญัตติ ที่ค่อนข้างแตกต่างจากญัตติอื่น ที่มุ่งประเด็นไปที่กรณีการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ตอนหนึ่งว่า ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา ตนขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีจากใจจริง การที่เราได้มีโอกาสอภิปรายเรื่องประโยชน์สำคัญต่อความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยวันนี้ เครดิตต้องอยู่ที่นายกฯ คนเดียว สำหรับตน นายกฯ ได้โชว์วุฒิภาวะความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง นายกฯ คือนายกฯ ของประเทศไทยอย่างแท้จริง นายกฯ ได้มองถึงความปลอดภัย และประโยชน์ของประชาชนชาวไทยก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว นายกฯ ตระหนักถึงข้อมูลที่ตนแม้จะเป็นนักการเมืองตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไปนำเสนอจากใจด้วยความเป็นห่วง ตนขอฝากไปถึงนายกฯ ว่าตนให้คำสัญญา จากนี้เป็นต้นไป ตนจะใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง สติปัญญาที่ตนมี เพื่อสนับสนุนนายกฯ ด้วยความสุจริตใจ ตราบใดที่นายกฯ มองถึงประโยชน์ของประชาชนชาวไทยมาก่อนอย่างนี้ต่อไป

“ฉะนั้นด้วยความจริงใจ ผมขอประกาศในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ว่าผมนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลูกชายคนโตของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน และไม่ใช่แค่ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ แต่ทุกๆ พ.ร.บ. หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ. ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมาแล้วนำเสนอเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย อย่างนโยบายบ้านเกิดเมืองนอน ผมก็จะไม่พิจารณา เพราะสำหรับผมที่ศึกษามา มันมีเรื่องที่เร่งด่วนกว่าอย่างมหาศาล หากท่านสงสัยว่าทำไมเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งหลายที่สุด โดยหลายเหตุผลที่ท่านทราบ ผมที่ไม่เคยหิวแสง ผมที่ไม่เคยต้องการสัมภาษณ์ ไม่เคยตอบโต้ กระทั่งที่โดนเข้าใจผิดโดยสังคม ทำไมต้องทำขนาดนี้ ขอให้ทุกท่านตั้งใจฟังข้อมูลต่างๆ ที่ผมรวบรวมสะสมมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อประชาชนชาวไทยทุกคน” นายไชยชนก กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไชยชนก ได้อภิปรายเข้าสู่เนื้อหาเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก และประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกเดือดจนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย เกิดภาวะโลกร้อน การประทุของดวงอาทิตย์ส่งผลต่อภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว สึนามิ ระดับน้ำทะเลลดลงอย่างผิดปกติจนต้องแจ้งระวังภัย เป็นต้น พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่ตนพยายามจะนำเสนอนายกฯ เขาบอกตนว่าทุกคนจะมองเป็นเรื่องเกมการเมือง พอเถอะเกมการเมือง ซึ่งนายไชยชนก ได้อภิปรายไป ถอนหายใจไปเป็นระยะๆ ทั้งนี้ นายพิเชษฐ์ ในฐานะประธานการประชุม ได้ขอให้นายไชยชนก กระชับเนื้อหาเข้าสู่ประเด็น ขณะที่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกร่วมพรรคเดียวกัน ลุกขึ้นชี้แจงว่า ญัตติดังกล่าวของนายไชยชนก แตกต่างจากญัตติอื่นที่เสนอเข้ามาพร้อมกัน ขอให้นายไชยชนก ได้อภิปรายในประเด็นภัยพิบัติ จากนั้นจะเข้าสู่ประเด็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกต่อไป

แต่ทางนายไชยชนก ยังพยายามอภิปรายในเรื่องภัยพิบัติจากธรรมชาติ จนกระทั่ง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วง ขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องภาษี ไม่ใช่อภิปรายญัตติแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งประธานการประชุม วินิจฉัยว่า ญัตติของนายไชยชนก ค่อนข้างแตกต่างจากญัตติอื่น แต่ขอให้ผู้อภิปรายกระชับเข้าสู่ประเด็นเนื้อหา แต่ น.ส.รักชนก ยังขอให้ประธานวินิจฉัยอีกครั้ง เพื่อชื่อเสียงและครอบครัวของผู้อภิปราย ทำให้นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วง น.ส.รักชนก ว่า นายไชยชนก ได้ทำหน้าที่ สส. ครอบครัวไม่ได้มาเกี่ยวด้วย อย่าพาดพิงไปถึงครอบครัวของผู้อภิปราย

จากนั้นนายไชยชนก ได้อภิปรายเข้าสู่เนื้อหาเกี่ยวกับการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ตอนหนึ่งว่า จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เราต้องยอมรับในสถานการณ์ว่า นี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่นายทรัมป์ จะทำ เรื่องนี้มีแต่จะดุเดือดรุนแรงมากขึ้น ขึ้นภาษีจีนมาถึงกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ขนาดประเทศแคนาดาที่เปรียบเสมือนเป็นประเทศเดียวกันกับอเมริกา ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วเราเป็นใคร ประชาชนจึงจำเป็นจะต้องได้ยินว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาของการพัฒนา การลงทุน หรือกระตุ้นเศรษฐกิจ เวลานี้เป็นเวลาที่เราไม่ควรจะก้าวไปข้างหน้า เวลานี้เราควรหยุด แล้วถอยมาหนึ่งก้าว เพื่อรักษาบุคลากรและทรัพยากรของประเทศไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เราผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้ ตนขอให้เริ่มกันตั้งแต่วันนี้ ทุกฝ่ายต่างมีหน้าที่รับผิดชอบในแบบของตัวเอง ขอให้ไปพิจารณาตัวเองดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยเหลือประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายไชยชนก อภิปรายเสร็จ ได้มีเพื่อน สส. จากพรรคภูมิใจไทย เข้าไปสวมกอดให้กำลังใจนายไชยชนก ด้วย แม้แต่กระทั่ง น.ส.รักชนก ก็ได้เดินเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจนายไชยชนก อีกด้วย.