รายการโหนกระแส พูดคุยกันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 กรณีประเด็นร้อน “ไฮโซเก๊” หลอกดาราสาว อ้างตัวเป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่โตในวงราชการ แอบอ้างว่าใกล้ชิดเบื้องสูง มีขบวนรถนำ ผู้ติดตามใส่ชุดข้าราชการ และมอบทรัพย์สินมีค่า เช่น ทองคำและแหวนเพชร ก่อนพบภายหลังว่าอาจเป็นของปลอม ทั้งยังมีการลวงให้โอนเงิน โดยอ้างจะนำไปซื้อของขวัญให้นายกรัฐมนตรี
กระแสนี้ต่อเนื่องมาตลอดหลายวัน มีการขุดคุ้ยกันต่อ จนเจอผู้หญิงอีกหลายคน ที่ไฮโซเก๊รายนี้เคยไปจีบ ไปหลอกลวง พฤติการณ์คล้ายคลึงกัน โดยในวันนี้ รายการโหนกระแสได้พูดคุยกับผู้หญิง 4 คน คือ คะน้า ริญญารัตน์ ที่มานั่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 คนต่อมาคือ แก้ม สรัญรัตน์ นางแบบสาว ที่ออกมาเปิดเผยว่า เธอเองก็เคยถูกไฮโซเก๊รายนี้จีบ และเปย์ด้วยสร้อยเพชร คุณปาล์มมี่ อดีตสาวที่เคยคบหากับนายฮอต และคุณกุ๊ก คนที่ไฮโซเก๊เคยจีบ โดยทั้ง 4 คน จะมาพูดคุยและเล่าเรื่องที่เคยเจอเหตุการณ์ในมุมของตัวเอง
แก้ม สรัลรัตน์ นางแบบสาวและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เล่าประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับชายคนเดียวกัน โดยเผยว่าเธอเคยรู้จักกับ “ไฮโซเก๊” รายนี้เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ฝ่ายชายเข้ามาจีบและทำตัวเหมือนคนมีอำนาจ ไปไหนมาไหนต้องมีบอดี้การ์ดคอยเดินตาม แม้แต่แค่ไปห้าง ก็ยังมีคนประกบติด นอกจากนี้ วันแรกที่รู้จักกัน เขาแจกสร้อยเพชรให้ พร้อมอ้างว่าเป็นเพชรแท้ขนาด 38 กะรัต แต่ภายหลังก็มีการเปิดเผยว่าเป็นของปลอมทั้งหมด
แก้มเล่าว่า อีกหนึ่งสิ่งที่เธอรู้สึกขัดใจ คือพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ความเป็น “ไฮโซ” เพราะบางวันก็ขับเบนซ์หรู มีคนขับรถให้ แต่บางวันกลับนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ก็ไม่เข้าใจว่าจะสมถะหรือประหยัดอะไร ในเมื่ออ้างว่าตัวเองรวยมาก อีกทั้งยังพยายามทำตัวสนิทเร็วเกินเหตุ เช่น คุยกันไม่ถึงเดือนก็เรียกว่า “ที่รัก” แล้ว

แก้มยังเผยว่า ตอนที่แก้มไปทำงานขายรถมินิ เคยโดนไฮโซปลอมรายนี้พยายามพาแฟนใหม่มาดูรถที่เธอขาย โดยบอกว่าจะเอารถมินิ คลับแมนคันเดียวที่เหลือในโชว์รูม และจะวางเงินมัดจำ แต่สุดท้ายกลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าติดประชุมด่วน และก็ไม่กลับมาอีกเลย
ขณะที่ ปาล์มมี่ ผู้หญิงอีกคนที่เคยคบหากับผู้ชายคนนี้ ตอนที่เข้ามาหาประมาณปี 2559 รู้จักกันผ่านกลุ่มเพื่อน พามาทานอาหารที่ร้านของตน ตอนนั้นเขายังอายุน้อย เขามีแฟนอยู่ ช่วงที่มา เขาก็เคยพาผู้หญิงมา แล้วก็มาทานอาหารที่ร้านบ่อยๆ จนมีวันหนึ่งเขาร้องไห้มาที่ร้าน มาร้องว่า “พี่ แฟนผมไปแล้ว เขาไปแล้วพี่ เขาทิ้งผมแล้ว” มาทำให้เราสงสาร ร้องห่มร้องไห้ จนเราก็เลยมานั่งคุยกับเขา พี่สาวเราก็เลยให้เขามาอยู่ที่ตึกที่เราเช่าทำร้านอาหาร ให้เขาอยู่ชั้นหนึ่ง เพราะไม่อยากให้เขาไปเจอสภาพเดิมๆ เดี๋ยวจะเศร้า
ปรากฏว่าพอมาอยู่ทีหนึ่งก็อยู่ยาวไม่ไปไหนเลย ยึดเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แล้วก็ออกไปทำงานบ้าง ตอนนั้นเขาอ้างว่าเขาเป็นนายหน้าค้าที่ดิน แล้วก็อ้างว่าเป็นทายาทโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) อ้างว่าสืบนามสกุลสิงหเสนีมาด้วย เราทราบว่าเขาเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ก็เลยติดต่อให้เขารู้จักกับนายทุนที่เป็นรุ่นพี่เรา หวังให้เขาทำธุรกิจกัน
แต่พอทำไปทำมา รุ่นพี่เรามาเล่าว่า นายไฮโซเก๊คนนี้ ไปทำพฤติกรรมแปลกๆ แอบไปคุยกับเจ้าของที่นอกรอบ เรียกเงินส่วนต่าง ทำอะไรที่ไม่ควรทำหลายอย่าง หนักสุดคือ ไปเจอว่ามีคดีเอาทรัพย์สินของผู้หญิงคนหนึ่งมา จนผู้หญิงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หัวหิน โดนตำรวจจับ ตอนนั้นเราคบหาเป็นแฟนกับเขาแล้ว ก็ตามไปหาที่โรงพัก พอไปถึงเขาก็ลงไปนอนชัก น้ำลายฟูมปาก เราร้องให้ตำรวจช่วย ตำรวจหันมาดูก็บอกว่า “มันไม่เป็นไรหรอก” พอไม่มีใครสนใจ เขาก็เลยหยุดชัก แล้วกลับขึ้นมานั่งเหมือนเดิม
หลังจากนั้น มีเรื่องที่เขาแอบปลอมไลน์ แอบอ้างว่าเขาคุยไลน์กับเบื้องสูง เราเอะใจหลายเรื่อง จนแอบย่องมาดู จนพบว่า ระหว่างที่ไลน์ของคนที่อ้างว่าเป็นเบื้องสูงที่พิมพ์คุยกับเรา ย่องมาดูเจอว่าเขากำลังนั่งพิมพ์อยู่เอง เราก็เลยไปแย่งมือถือเขามา จนมือถือมันหล่นแตก ปรากฏว่านายไฮโซคนนี้อาละวาด แกล้งทำเป็นโมโห ออกจากบ้านไป แล้วหลังจากนั้นก็มีอีเมลส่งมา อ้างว่าเป็นเบื้องสูง ส่งมาบอกว่า ทำไมถึงไปทำกับเขาแบบนั้น เขาตั้งใจทำงานอยู่ ไม่ให้เราไปตามสืบอะไรอีก
หลังจากนั้นมีเรื่องเขาจะแต่งงานกับเรา จะซื้อบ้าน บอกว่าซื้อบ้านรวดเดียว 3 หลัง จะแต่งงานกับเรา รวบรัดมาก ทั้งที่คบกันไม่กี่เดือน โดยอาศัยอ้างเบื้องสูงมาทำให้เรายอมตกลงแต่ง แต่พอถึงเวลาใกล้จะแต่งงานจริงๆ มาโกหกว่าโรงแรมถูกวางระเบิด แต่งไม่ได้
แล้วเรื่องนี้เสียหายมาก เพราะเขาอ้างว่าซื้อบ้านแล้ว จะให้เราย้ายออกจากอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น (ที่เช่าทำร้านอาหาร) เพื่อไปอยู่บ้านกับเขา แต่บ้านไม่มีอยู่จริง ทั้งที่เรายกเลิกสัญญาเช่าตึกไปแล้ว จนสุดท้ายไม่มีที่อยู่ เขาต้องลากเอาเราไปอยู่ในบ้านป้าของเขา ไปอยู่รวมกันในบ้านหลังเล็กๆ เพราะเขาอ้างว่า บ้านหลังใหญ่ของเขารีโนเวทอยู่
แล้วยังมีเรื่องเรื่องแอป “เฟคคอล (Fake Call)” ที่เขาจะตั้งเวลาให้มือถือตัวเองดัง เหมือนมีคนโทรฯ หา อ้างว่าเป็นเบอร์ของเบื้องสูง เราก็สงสัย เลยไปแอบโหลดแอปอัดเสียงไว้ในมือถือ ที่อัดไว้แบบไม่ให้รู้ตัว พอเราเอาเสียงมาฟังทีหลังถึงได้รู้ว่ามันพูดคนเดียว ไม่มีใครโทรฯ มา พูดว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่วังนะ ให้ทหารมาเปิดประตูรอนะ
แล้วก็ยังมีเรื่องที่ชายคนนี้ ไปหลอกให้ตนเปิดบัญชีรอไว้ เพราะจะมีเงินก้อนมหาศาล เข้ามาที่บัญชี หลอกให้เราไปนั่งรอที่ห้างทุกวี่ทุกวัน ทั้งที่ไม่มีจริง สร้างโปรไฟล์หลอกคนนั้นคนนี้ว่ามีเงิน คุยกับนายหน้าค้าที่ดิน อยู่ดีๆ ก็พานายหน้าคนนั้นไปดูรถ อ้างกับเขาว่าจะซื้อรถให้เรา ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องเลย
ขณะที่คุณหมอ ภรรยาของไฮโซเก๊ ที่เป็นโลกอีกใบ ที่ติดต่อมาหาคะน้าตั้งแต่วันแรกๆ โฟนอินเข้ามา เปิดใจเป็นครั้งแรกว่า เพิ่งมารู้เรื่องราวทั้งหมดว่าเราถูกหลอก ก็คือตอนที่คะน้าออกมาเปิดเรื่องนี้ และตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่กับเขา ตอนนี้กำลังไล่รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ จะเอามาดำเนินคดีกับไฮโซเก๊รายนี้
หมอเล่าว่า สตอรี่ที่ตนเจอจากนายไฮโซปลอมรายนี้ ต่างจากคนอื่น คือเขาไม่ได้เข้ามาแบบไฮโซ เข้ามาแบบคนธรรมดา ไม่ได้อวดอ้างความรวยหรืออะไร ก็เลยคุยกันแบบพี่น้อง เขาก็ตีสนิทกับเรามาเรื่อย
ส่วนเรื่องการจะเอาเฮลิคอปเตอร์มารับคุณพ่อที่ป่วยหนัก เรามีความพยายามจะประสานจริงๆ แต่ผู้ชายคนนี้เป็นคนไปติดต่อ ความจริงเป็นอย่างไรมันอยู่ที่ตัวเขา จะหาเฮลิคอปเตอร์จริงหรือไม่จริง ต้องถามเขา

ส่วนทางเพื่อนที่บอกว่าเราเคยไปประกันตัวเขาออกมา และครั้งนี้ก็จะไปประกันตัวอีก ขอยืนยันว่าไม่เคยเลย ตอนที่เขาถูกจับตอนนั้น เป็นครอบครัวฝ่ายเขาที่เป็นคนไปประกัน เราไม่เคยเลย เป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ส่วนเรื่องการขอเลื่อนงานแต่ง ก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ คืออ้างเหตุผลมากมาย ครั้งสุดท้ายคือบอกว่าประสบอุบัติเหตุ เขาโทรฯ มาบอกว่าประสบอุบัติเหตุ แต่เราไม่รู้จริงๆ ว่าอุบัติเหตุอะไร ยังไง แบบไหน จริงไหม
ส่วนเรื่องที่หมอถูกหลอกเงินไปหลายล้าน มันเป็นเรื่องที่เรามีปัญหาเรื่องคดีฟ้องร้องต่างๆ แล้วชายคนนี้อ้างว่าจะช่วยเราได้ โดยประสานทนายคนหนึ่งมา แล้วบอกให้เราจ่ายค่าทนายเป็นหลักล้าน แต่ถึงเวลามารู้เรื่องทีหลังว่า เขาไม่เคยจ่ายเงินให้ทนายคนนี้เลย เป็นการหลอกเอาเงินเราไป
ส่วนเหตุการณ์ที่ไฮโซเก๊คนนี้จะกระโดดจากอาคาร ก็คือคลินิกรักษาสัตว์ของคุณหมอเอง เขายังอยู่กับหมอจนถึงวันที่ถูกจับกุม เพราะคุณหมอเองก็เพิ่งทราบข้อเท็จจริงว่าถูกหลอก ในวันที่คุณคะน้าออกมาเปิดเรื่อง
ทนายความของคุณหมอเผยอีกว่า สินสอดต่างๆ ที่เอามาวาง มาขอคุณหมอแต่งงาน มีแต่ของเก๊ทั้งหมด แล้วบัญชีที่ว่ามีเงินฝากเป็นร้อยๆ ล้าน เอาไปเช็ก ไปตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นบัญชีที่ทำปลอมขึ้นมา ทดลองโอนเงินไปตามเลขบัญชีนี้ พบว่าไม่มีบัญชีนี้อยู่จริง
ที่ผ่านมา เราไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาหลอกอะไรเราบ้าง เขาอ้างแต่ว่าเขาดูแลให้ทางคดีกับเราอยู่ แล้วก็ข่มขู่ตลอดว่า แม่เราอาจจะถูกยึดทรัพย์ เราอาจถูกยึดใบอนุญาต เขาบล็อกทุกช่องทางติดต่อของเรา ทั้งที่เขาบอกว่าเราคือภรรยา แต่เรากลับติดต่อได้แค่ไลน์อย่างเดียว เขาอ้างว่าเขาทำงานกับเบื้องสูง ทำให้การให้ข้อมูลต่างๆ หรือการจดทะเบียนสมรสอะไรต่างๆ มันเปิดเผยไม่ได้ สร้างเรื่องโกหกไปต่างๆ นานา
คุณหมอยืนยันว่า เราจะดำเนินคดีกับผู้ชายคนนี้อย่างถึงที่สุด ทั้งในความผิดฐานฉ้อโกง ความผิดฐานหมิ่นประมาท และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112