‘ยัสปาล กรุ๊ป’ หรือ ‘บริษัท ยัสปาล จำกัด’ (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ประกาศความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยการพลิกโฉมระบบโลจิสติกส์สู่พลังงานสะอาด โดยได้เริ่มนำรถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) มาใช้ในการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ ยังได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านความยั่งยืนไปสู่การลดของเสีย (Waste Reduction) ในกระบวนการทำงาน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

‘จรัญ สิงห์สัจจเทศ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยัสปาล กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่นควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดในระบบโลจิสติกส์และการลดของเสียในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าร่วมให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวคิด ‘The Power of Sustainability’ ที่บริษัทยึดมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างไม่หยุดนิ่ง

“เราเชื่อว่าการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นไลฟ์สไตล์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การนำเสนอเทรนด์และสไตล์ที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งต้องดำเนินไปพร้อมกันตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม การขนส่งที่ลดการปล่อยมลพิษ และการส่งเสริมการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ยัสปาล กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการบูรณาการแนวทางเหล่านี้เข้าสู่ทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน การลงทุนในระบบโลจิสติกส์พลังงานสะอาด ไปจนถึงการสร้างความร่วมมือกับผู้บริโภคผ่านการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล ซึ่งแนวทางเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2065” จรัญ กล่าวเสริม

ภายใต้ความร่วมมือกับ ‘บริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด’ ยัสปาล กรุ๊ป ได้เริ่มนำร่องการใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้า 4 ล้อสำหรับการขนส่งสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าไปยังสาขาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยในปี 2024 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2% และในปี 2025 นี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนรถบรรทุกไฟฟ้าเป็น 6 คัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการขนส่งไปยังสาขาในต่างจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินงานอย่างจริงจัง โดยมีการนำระบบการหมุนเวียนกล่องกระดาษที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างศูนย์กระจายสินค้าและสาขามาใช้ เพื่อยืดอายุการใช้งานของวัสดุบรรจุภัณฑ์ และลดปริมาณขยะประเภทใช้ครั้งเดียว (Single-use Waste) ลงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังได้ส่งเสริมการใช้ถุงกระดาษที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิลในแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย