สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐ และรัฐต่าง ๆ มากกว่า 12 รัฐ ยื่นฟ้องกูเกิลในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด โดยกล่าวหาว่า กูเกิลกระทำการอย่างผิดกฎหมาย เพื่อมีอำนาจเหนือสามภาคส่วนของการโฆษณาดิจิทัล ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์โฆษณาของผู้เผยแพร่ เครื่องมือของผู้โฆษณา และการแลกเปลี่ยนโฆษณา
คดีดังกล่าวเป็น 1 ใน 2 คดีความของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่มุ่งเป้าไปยังกูเกิล ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทต้องแบ่งและจำกัดอิทธิพลของตนเอง อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางของรัฐบาลวอชิงตัน ที่จะควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
Google Has an Illegal Monopoly in Ad-Tech Market, Judge Rules https://t.co/HN76DY68Eb
— Variety (@Variety) April 17, 2025
ทั้งนี้ โจทก์กล่าวหาว่า เว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โฆษณาของกูเกิล ทั้งสามผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้ผู้เผยแพร่ไม่สามารถหลบเลี่ยงเทคโนโลยีโฆษณาของกูเกิลได้
แม้นางลีโอนี บริงเคมา ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ เห็นด้วยกับเหตุผลส่วนใหญ่ โดยตัดสินว่ากูเกิลสร้างการผูกขาดอย่างผิดกฎหมายต่อซอฟต์แวร์และเครื่องมือโฆษณาที่ผู้เผยแพร่ใช้ แต่เธอปฏิเสธข้อโต้แย้งบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือที่ผู้โฆษณาใช้
“กูเกิลตั้งใจกระทำการต่อต้านการแข่งขัน เพื่อครอบครองและรักษาอำนาจผูกขาดในเซิร์ฟเวอร์โฆษณาของผู้เผยแพร่ และตลาดแลกเปลี่ยนโฆษณา สำหรับการโฆษณาแบบแสดงผลบนเว็บเปิด” บริงเคมา กล่าวในการตัดสิน พร้อมกับเสริมว่า กูเกิลยึดมั่นในอำนาจผูกขาดต่อไป ด้วยการกำหนดนโยบายต่อต้านการแข่งขันกับลูกค้า และขจัดคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่พึงประสงค์
อย่างไรก็ตาม กูเกิลให้คำมั่นอย่างรวดเร็วว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว ซึ่งนางลี-แอนน์ มัลฮอลแลนด์ รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของกูเกิล กล่าวในแถลงการณ์ว่า ศาลพบว่าเครื่องมือของผู้โฆษณา และการเข้าซื้อกิจการของบริษัท ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการแข่งขันแต่อย่างใด.
เครดิตภาพ : AFP