“การดื่มน้ำ” เป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อสุขภาพผิวที่ดี และการทำงานของระบบขับถ่ายที่เป็นปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หลายคนเชื่อว่าการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยส่งเสริมการเผาผลาญ และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
แต่ความจริงแล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่?
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป การดื่มน้ำไม่ถูกวิธี และไม่ถูกเวลา อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไต ต้องใส่ใจกับการดื่มน้ำให้มากขึ้น
แพทย์ได้เน้นย้ำถึงข้อควรระวัง 3 ประการ ในการดื่มน้ำของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย และป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น

- อย่าดื่มน้ำปริมาณมากก่อนอาหาร
ผู้สูงอายุหลายท่านอาจเคยชินกับการดื่มน้ำแก้วใหญ่ก่อนมื้ออาหาร เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร และช่วยย่อยอาหาร แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การดื่มน้ำมากเกินไปก่อนอาหาร อาจเจือจางน้ำย่อย ส่งผลต่อประสิทธิภาพการย่อยอาหาร และอาจเพิ่มภาระในการหลั่งอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนได้ง่าย นอกจากนี้ การดื่มน้ำมาก ๆ ยังอาจลดประสิทธิภาพการดูดซึมของระบบทางเดินอาหาร ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น ส่งผลต่อความเสถียรของระดับน้ำตาลในเลือด
- อย่าดื่มน้ำปริมาณมากก่อนนอน
การดื่มน้ำมากๆ ก่อนเข้านอน ไม่เพียงแต่จะรบกวนการนอนหลับจากการต้องตื่นมาปัสสาวะบ่อยๆ แต่ยังเพิ่มภาระให้กับไต โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่การทำงานของไตเริ่มเสื่อมถอย ในเวลากลางคืนร่างกายจะเผาผลาญน้ำช้าลง น้ำที่มากเกินไปอาจคั่งค้าง ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ และอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่มีความดันโลหิตสูง และโรคไต การตื่นมาปัสสาวะบ่อยๆ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มในผู้สูงอายุ ส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว แพทย์แนะนำให้รับประทานอาหารเย็น และดื่มน้ำครั้งสุดท้ายก่อน 19:00 น. เพื่อให้ร่างกายมีเวลาขับถ่ายน้ำส่วนเกิน
- อย่าดื่มน้ำมากเกินไปในครั้งเดียว
หลายคนมักดื่มน้ำปริมาณมากเมื่อรู้สึกกระหาย โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย แต่การดื่มน้ำมากเกินความจุที่ไตจะสามารถจัดการได้ในคราวเดียว จะเพิ่มแรงดันในการขับถ่ายของไต หากทำเช่นนี้เป็นประจำ อาจนำไปสู่ภาวะไตทำงานหนักเกินไปเรื้อรัง เกิดอาการบวมน้ำ และความดันโลหิตสูงได้ ไตมีความสามารถในการระบายน้ำได้ประมาณ 800-1,000 มิลลิลิตรต่อชั่วโมงเท่านั้น การดื่มน้ำมากเกินไปในครั้งเดียว จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไป และน้ำส่วนเกินอาจแทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อ ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะไตไม่สมบูรณ์ การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้สมดุลของโซเดียมและโพแทสเซียมในร่างกายเสีย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้สูงอายุ
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้สูงอายุ:
กระจายการดื่มน้ำตลอดทั้งวัน: ควรจิบน้ำบ่อยๆ แทนการดื่มน้ำปริมาณมากในครั้งเดียว
สังเกตปริมาณปัสสาวะ: ปัสสาวะสีเหลืองอ่อนแสดงว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ
เลือกดื่มน้ำเปล่า: หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด หรือมีน้ำตาลสูง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ปรึกษาแพทย์: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล
การดื่มน้ำอย่างถูกวิธีและถูกเวลาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำให้เหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุรักษาสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้.
ที่มาและภาพ : sohu, freepik