ช่วงนี้เริ่มมีข่าวหนาหูว่า “นายกฯ อิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปลาย เม.ย. ซึ่งการปรับเป็นอำนาจนายกฯ แต่ผู้เดียว และอาจไม่มีการแจ้งอะไรล่วงหน้าเพราะกลัวกระทบต่อขวัญกำลังใจเจ้ากระทรวง “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่า นายกฯ ไม่เคยพูดถึง ไม่เคยมาปรึกษาอะไร พรรคร่วมรัฐบาลก็เหนียวแน่นกันมาตลอด เวลาเป็นข่าวก็เป็นมุมมองของผู้สื่อข่าว คอลัมนิสต์
นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. กล่าวผ่านช่อง “วันชัยคูณสองวิพากษ์การเมือง” ถึงเรื่องท่าทีของ “เลขาฯ นก” ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ซึ่งประกาศจุดยืนไม่เอากาสิโน จนถูกจับตาว่า เป็นความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทยหรือไม่ นายวันชัย บอกว่า ได้ติดตามรับฟังแล้วเห็นว่า นายไชยชนก ไม่รู้ตัวว่ากำลังพูดอะไร พูดกับใคร หรือพูดเพื่ออะไร มองว่าไม่มีประเด็น เป็นเรื่องของเด็กเจนวาย ไม่ใช่เรื่องการลองของ แข็งข้อ หรือแสดงความเหนือกว่า
พูดกันไปเองว่าหากพรรคภูมิใจไทยถอนตัว รัฐบาลจะพัง กรณีนายไชยชนกไม่ได้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อม เป็นเพียงเรื่องที่ทำให้ผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย เนื้อเต้นเส้นกระตุกเบาๆ เท่านั้น นายไชยชนกไม่รู้ว่าตัวเองทำพลาด ทำไปโดยไม่รู้ตัวและไม่มีใครเตือนมาก่อน
หากดูตัวเลขทางการเมืองขณะนี้มี สส. 494 เสียง เสียงครึ่งหนึ่ง คือ 247 เสียง ขณะนี้รัฐบาลมี 320 เสียง เป็นรัฐบาลที่แข็งแกร่ง หากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวไป 70 เสียง รัฐบาลยังคงเหลือ 250 เสียง ถือว่าเกินกึ่งหนึ่งมา 3 เสียง หากมองว่าจะไม่มีเสถียรภาพ ก็ดึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 20 เสียง เข้าร่วมรัฐบาลเป็นรัฐบาลที่มั่นคงมีเสถียรภาพ
พรรคเพื่อไทยอยู่เหนือพรรคภูมิใจไทยจะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด หากพรรคภูมิใจไทยแข็งข้อ ก็จะได้เป็นฝ่ายค้าน เพราะชาตินี้เสียงไม่ถึงเป็นรัฐบาลได้ ภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน รวมกับพรรคประชาชน (ปชน.) ก็ไม่มีบทบาท และไม่ผสมกับพรรคสีส้มแน่นอน เพราะเขาประกาศว่าเป็นพรรคสีน้ำเงิน เลือกตั้งครั้งหน้าจะเหลืออะไร ทนายคนดัง วิเคราะห์
ภายหลังจากศาลตัดสินให้ นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย มีความผิดในคดีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เจ้าตัวก็ยังทำงานในพื้นที่ โดยไปดูสะพานข้ามลำห้วยค้อชำรุด ที่ อ.เขาสวนกวาง นายเอกราช ให้สัมภาษณ์ว่า ยังคงมีกำลังใจลงพื้นที่พบปะประชาชน ยังคงมีปัญหาและความเดือดร้อนต่างๆ ที่ได้รับร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ขอไม่ตอบประเด็นคำถามใดๆ ตามที่หลายคนสงสัย ทั้งเรื่องคดีความ (ศาลพิพากษานายเอกราชมีความผิดในคดีทุจริตเงินสหกรณ์ครู) เรื่องพรรคการเมืองที่สังกัด (พรรคภูมิใจไทยจะขับนายเอกราชออก เพราะมีพฤติกรรมไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม)
อนาคตทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น หลายคนวิจารณ์และพูดไปต่างๆ นานา ตนจะยังคงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่มาก ต้องทำและแก้ปัญหาทุกวัน สะพานจุดนี้ทราบมาว่าชำรุดพังมากว่า 1 ปีซึ่งจะมีการประสาน อบจ.ขอนแก่น และ กรมโยธาธิการและผังเมือง
ในวันเดียวกัน มีกระแสข่าวสะพัดในพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคมีมติขับนายเอกราชออกจาก สส.พรรค
การหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช แทน นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล จากพรรคภูมิใจไทย ที่ถูก กกต.และศาลตัดสินให้ใบแดงตัดสิทธิทางการเมือง เลือกตั้งใหม่ในวันที่ 27 เม.ย. พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาชน (ปชน.) หาเสียงกันอย่างดุเดือด เมื่อคืนวันที่ 17 เม.ย. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครเบอร์ 2 จากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในห้องประชุมศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
นายชินวรณ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้แม้จะเป็นการเลือกตั้งซ่อมซึ่งเหลือเวลาในการดำรงตำแหน่งแค่ 2 ปี แต่ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีความหมายในชีวิตการเมือง 35 ปีของตนอย่างมาก สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ค่อนข้างวิกฤติหนักในหลาย ๆ เรื่อง ไม่มีเวลาสำหรับมือสมัครเล่นหรือ สส.หน้าใหม่ แต่ตนเข้าไปทำงานได้อย่างทันทีที่ชนะการเลือกตั้ง
“ผมมีภารกิจในการพัฒนาพื้นที่เขต 8 หลายโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ยังทำไม่สำเร็จ โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำประปาระบบท่อจากเขื่อนใน อ.พิปูน มาใช้ในพื้นที่ อ.ช้างกลาง ฉวาง รวมทั้งสิ่งสาธารณูปโภค ถนนหนทางต่าง ๆ คาดว่า 2 ปี จะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทั้งหมด ผมจะเป็นอีกหนึ่งเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้าไปร่วมกันกอบกู้ฟื้นฟูพรรคให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต” นายชินวรณ์ กล่าว
“สส.แทน” ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปช่วยหาเสียง กล่าวว่า หลายพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคประชาชน (ปชน.) ใช้วิธีการหาเสียงแบบโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มีผลงาน และเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แบบไร้ศักดิ์ศรี แต่เราเข้าร่วมรัฐบาลแบบมีเงื่อนไขและเป็นพรรคสุดท้าย โดยเฉพาะเราระบุว่าจะต้องได้ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เราร่วมรัฐบาลมาไม่ถึงปีแต่สามารถออกเอกสารแจกจ่ายให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินไปแล้วหลายแสนไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการแจกจ่ายอีกจำนวนมาก
“ในครั้งตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลเองก็พยายามจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมาก่อนใช่หรือไม่ แต่ตั้งไม่ได้จึงต้องถูกผลักมาเป็นฝ่ายค้าน ต้องเอาเรื่องจริงข้อเท็จจริงมาพูด อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น”
สส.แทน กล่าวว่า เลือกตั้งซ่อมเที่ยวนี้มีการจดรายชื่อ มีการจ่ายซื้อเสียง ยอมรับว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญแต่ศักดิ์ศรีความเป็นคนมันมากกว่า ไม่ห้ามประชาชนรับเงินเพราะรู้ดีว่าเที่ยวนี้ชาวบ้าน ‘กินเหยื่อ แต่ไม่กินเบ็ด’ และขอฝากไปยังแกนนำหรือหัวคะแนนของบางพรรคการเมืองรับมาเท่าไร ให้ถึงมือประชาชนเท่านั้น อย่าหักหรือกินหัวคิว รับมา 500 ถึงมือประชาชน 300 หรือ 200 และทั้งหมดเราไม่กินเบ็ด
ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย นางมุกดาวรรณโดนใบแดง แต่การเลือกตั้งซ่อมกลับนำ นายไสว เลื่องสีนิล สามีมาลงแทน ชาวเขต 8 คงรับไม่ได้และคงไม่เอาอีกแล้ว จะมาสืบทอดการเป็น สส.แทนภรรยาที่โดนใบแดงมันยอมรับไม่ได้ อย่าคิดว่าจับอะไรยัดใส่มือประชาชนแล้วได้ตามที่ต้องการ
“สส.ลิซ่า” ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ คือการเลือกจุดยืนทางการเมือง แสดงเจตจำนงทางการเมืองของคนนครศรีธรรมราช เรื่องสำคัญที่ขอให้ประชาชนจับตา หลังจาก เปิดสมัยประชุมสภา 3 ก.ค. จะมีการดันร่างกฎหมาย SEC หรือร่างกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น 1.รัฐบาลจะผลักดันแลนด์บริดจ์ จะทำให้เกิดการเวนคืนที่ดิน คนที่เคยทำเกษตร สวนท่านอาจจะถูกเวนคืน วิถีชีวิตพี่น้องประชาชนจะเปลี่ยนไป ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์จะได้รับผลกระทบ
2.ออกแบบผังเมืองใหม่ พื้นที่สีเขียวอาจจะกลายเป็นพื้นที่สีม่วงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนอุตสาหกรรม อาจเกิดผลกระทบจากการทิ้งกากอุตสาหกรรม และอาจเกิดการอนุมัติให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินได้ถึง 99 ปี ต้องถามว่าเรื่องพวกนี้มี สส.รัฐบาลคนไหนกล้าพูดบ้าง
“คนที่เป็นตัวแทนของประชาชนต้องกล้าพูดทั้งข้อดีและข้อเสีย วันนี้ สส. ทั้งภาคใต้ สส.นครศรีธรรมราช ทุกคนทุกเขต คือ สส.รัฐบาล จับตาดูให้ดีจะมีใครกล้าพูดเรื่องจริงเรื่องนี้กับประชาชนเหมือนที่ตนพูดหรือไม่ ว่าเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านแล้ว จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง” น.ส.ภคมน โพสต์
ใครว่าพรรคฝ่ายค้านทำงานไม่ได้ ย้อนไปดูได้ว่าข้อเสนอทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เสนอมาจากใคร ก็พรรคประชาชน ทุนเทาไทย การทุจริตคอร์รัปชั่น ก็ ปชน.เป็นคนพูด ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายไหน เราก็ทำงานเพื่อประชาชน.
