เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่โรงแรมสองพันบุรี จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเอกภาพของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หลังสงกรานต์แล้วจะเป็นอย่างไร ว่า จากสัปดาห์ที่แล้ว ในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ปิดไป ช่วง 3 เดือนนี้ ก็เป็นช่วงที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละพรรค จะขมักเขม้นในการลงพื้นที่ จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ในวันนี้มีการจัดประชุมใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนาที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้ สส. ได้พบปะพี่น้องประชาชน ซึ่งตนคิดว่าอุณหภูมิทางการเมืองก็จะเบาลงไป เพราะทุกคนคงจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานในพื้นที่มากกว่า และในช่วงเดือนพฤษภาคม จะมีการเปิดประชุมวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ก่อน หลังจากนั้น จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพูดคุยเรื่องญัตติและพระราชบัญญัติต่างๆ 

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ มีการแลกกันคนละหมัด ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามียุทธศาสตร์อย่างไรในการทำงานการเมืองในรัฐบาลแพทองธาร นายวราวุธ กล่าวว่า คุณพ่อสอนอยู่เสมอว่ามีมิตร 100 คนก็น้อยเกินไป มีศัตรู 1 คนก็มากเกินไป ดังนั้นแนวทางการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ผ่านมาถึง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ซึ่งเป็นพี่สาว จนมาถึงตนเองนั้น เรายืนยันว่า เราเน้นในเรื่องการทำงานและการสร้างพันธมิตรทางการเมืองมากกว่า เพราะการมีพันธมิตรทางการเมือง จะทำให้เราทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้มีประสิทธิภาพ ฉะนั้นเราคงไม่มีหมัดไปแลกกับใคร    

เมื่อถามย้ำว่าเหมือนไผ่ลู่ลมใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ผลงานของเราจะเป็นสิ่งที่ทำให้การเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลว่าเราเดือดร้อนตรงไหน และมีสิ่งใดให้พรรคชาติไทยพัฒนาที่กำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแล เราก็ยินดีที่จะช่วยกันทุกพรรค แม้กระทั่งทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เป็น สส. ที่เป็นผู้แทนของประชาชน ดังนั้น การทำงานของเรา ก็จะเอาผลงานเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน เรามาทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนดีกว่า เรื่องการเมืองก็เอาไว้ก่อน

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ที่พรรคร่วมรัฐบาลแข่งกันเอง จะสร้างความขัดแย้งหรือไม่ เพราะในการปราศรัยอาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน นายวราวุธ กล่าวว่า การกระทบกระทั่งเป็นเรื่องปกติ การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคมาอยู่ร่วมกันก็เหมือนการแต่งงาน ลิ้นกับฟันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าการเลือกตั้งสนามเล็กกับสนามใหญ่ จะมีความละเอียดอ่อนแตกต่างกันไป ซึ่งตนเองมั่นใจว่า เมื่อสนามเล็กจบแล้ว สนามใหญ่ก็คงจะเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่พรรคร่วมจะมาพูดคุยกันอีกครั้งเมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้ยังถึงเวลา