สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ว่านายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ เพื่อหาทางลดกำแพงภาษีต่างตอบแทน ที่สหรัฐต้องการเรียกเก็บ 24% จากญี่ปุ่น ว่ารัฐบาลวอชิงตันไม่ควรนำประเด็นใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง มาหารือรวมกับเรื่องการค้า


ขณะเดียวกัน อิชิบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะแสวงหาความร่วมมือและโอกาสทางการค้าเพิ่มเติม กับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อลดผลกระทบเชิงลบให้ได้มากที่สุด จากสงครามภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นประเทศมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกตามลำดับ


ทั้งนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นจัดการเจรจารอบแรกร่วมกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนายเรียวเซ อากาซาวา ผู้แทนพิเศษด้านการเจรจาภาษีของญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันต้องการบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น ภายในช่วงเวลา 90 วัน ของการระงับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน ซึ่งจะมีผลจนถึงวันที่ 9 ก.ค. นี้


ด้านหนังสือพิมพ์โยมิอุริของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่ารัฐบาลโตเกียวกำลังพิจารณาเพิ่มการนำเข้าข้าวและถั่วเหลืองจากสหรัฐ นอกจากนั้น อาจมีการเพิ่มการนำเข้าเนื้อวัว ปลา และมันฝรั่ง


อนึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า จะมีการหารือเรื่อง “ความมั่นคงทางทหาร” กับญี่ปุ่น ระหว่างการเจรจาเรื่องภาษีด้วย และกล่าวหาญี่ปุ่นตั้งกำแพงภาษีนำเข้าข้าวสูงถึง 700% ซึ่งกระทรวงเกษตรญี่ปุ่นชี้แจงว่า ข้อมูลของทรัมป์อ้างอิงจากราคาข้าวในตลาดโลก “ที่ล้าสมัยไปแล้ว”

หากญี่ปุ่นตกลงนำเข้าข้าวจากสหรัฐมากขึ้นจริง ต้องจับตาไปที่ท่าทีของรัฐบาลทรัมป์ว่าจะคิดเห็นอย่างไร เนื่องจากแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญของสหรัฐ คือรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต.

เครดิตภาพ : AFP