เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่กองอำนวยการร่วม รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร และ นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกันเปิดเผยความคืบหน้าการรื้อถอนซากอาคาร สตง. นายสุริยชัย เผยว่า จากการทำงานเมื่อวานนี้ สามารถเก็บกู้ชิ้นส่วนของผู้สูญหายได้ 18 ชิ้น และทรัพย์สิน รวมถึงอุปกรณ์การทำงานของผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง

ในส่วนของการลดระดับความสูงล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. บริเวณโซน B และ C อยู่ที่ 9.81 เมตร โซน A และ D อยู่ที่ 11.51 เมตร รถบรรทุกวิ่งขนวัสดุรวม 242 เที่ยว แผนในวันนี้คือจะดําเนินการต่อเนื่องทั้ง 4 โซน โดยจะเน้นขนวัสดุออกจากโซน C ปรับใช้รถขนาดเล็ก 6 ล้อ ของ กทม. เนื่องจากมีความคล่องตัวกว่ารถคันใหญ่เพราะถนนค่อนข้างแคบโดยนําไปเสริมรวมกับรถทหารซึ่งจะทําให้วิ่งได้จํานวนเที่ยวมากขึ้น ส่วนโซน B มีการขุดด้านข้างไปถึงจุดที่ทีมนานาชาติเคยแจ้งว่าพบสัญญาชีพแล้วเหลือเพียง 1 เมตร โดยมีเป้าหมายจะเข้าถึงให้ได้ภายในวันนี้ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างยังอยู่แผนงานที่กำหนดไว้
รศ.ทวิดา เผยว่า ขณะนี้เก็บตัวอย่าง DNA จากญาติผู้สูญหายได้แล้ว 97 ราย ส่วนการหาผู้สูญหายนั้น ก็ยังทำอยู่ต่อเนื่อง ส่วนเรื่องการรื้อถอนซากอาคารนั้น ถึงแม้ว่าจะมีการหยุดการใช้เครื่องจักรในการรื้อถอนเป็นระยะ เนื่องจากการเจอชิ้นส่วน อาจจะทําให้ล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากต้องใช้ความละเอียดมากขึ้นแต่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน เม.ย. นี้ แต่อาจจะบวกลบเล็กน้อย ส่วนเรื่องการรวมร่างให้สมบูรณ์จากชิ้นส่วนที่พบนั้น ยอมรับว่า อาจจะไม่ครบถ้วนเนื่องจากแรงกระแทกทําให้กระดูกแหลกหรือการย่อยสลายของชิ้นส่วนเพราะผ่านระยะเวลามาค่อนข้างนานแต่จะทําให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยจะหยุดค้นหาจนกว่าทุกอย่างจะเป็นศูนย์

ส่วนแผนการจราจรในพื้นที่ หลังจากที่ผู้ประกอบการร้านค้า บริเวณฝั่งที่มีการปิดถนน จะเข้าพูดคุยและหารือถึงแนวทางในการเปิดทางสัญจร ร่วมกันกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อและผู้ประกอบการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ แต่ไม่สามารถเปิดพื้นที่การจราจรได้ทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่ยังต้องดำเนินภารกิจในการรื้อถอนสร้างอาคารถล่ม รวมถึงยังต้องมีทีมแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมอยู่ในพื้นที่

สำหรับประเด็นในเรื่องเงินค่าช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ว่าผู้เสียหายได้รับเงินเป็นจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การเยียวยาเป็นไปตามระเบียบตามหลักเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เบื้องต้น ให้เป็นค่าวัสดุซ่อมแซม กรณีที่ไม่ได้เสียหายทั้งหลัง แต่ยังต้องส่งเจ้าหน้าที่สำนักโยธา สำนักงานเขต เข้าไปตรวจสอบและผ่านการประเมินจากวิศวกรอีกครั้ง เพื่อขอประเมินความเสียหาย ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อของบประมาณในการช่วยเหลือ

ส่วนการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยา เป็นกรณีพิเศษ ทางกรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมบัญชีกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเสนอในสภาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา.