เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 68 “รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้ออกมาเผยข้อมูลเตือนลงเฟซบุ๊ก “หมอหมู วีระศักดิ์” พร้อมระบุว่า “ทานวิตามินซีก่อนทำ MRI อาจก่อให้เกิดสารอันตรายในร่างกาย” ด้านนักวิจัยเสนอแนะวิธีการลดความเสี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับการสแกน MRI โดยไม่ควรทานวิตามินซี หากจำเป็นต้องทำ MRI พร้อมสารทึบรังสี

โดยหมอหมู ระบุข้อความว่า “การฉีดสารเคมีก่อนการสแกน MRI เพื่อช่วยให้สร้างภาพที่คมชัดขึ้น อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายประสบกับภาวะแทรกซ้อน ที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ในบางกรณี ตามรายงานการศึกษาใหม่ล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกพบว่าแกโดลิเนียม (gadolinium) ซึ่งเป็นโลหะหายากที่มีพิษที่ใช้ในการสแกน MRI อาจผสมกับกรดออกซาลิกที่พบในอาหารหลายชนิดจนเกิดการตกตะกอนนาโนอนุภาคของโลหะขนาดเล็กในเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้”

“งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Magnetic Resonance Imaging ได้ประเมินการก่อตัวของอนุภาคนาโนซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพที่อาจถึงแก่ชีวิตในไตและอวัยวะอื่นๆ เมื่อฉีดสารทึบรังสีเข้าไป แกโดลินัมจะจับกับโมเลกุลอื่นๆ อย่างแน่นหนาและถูกขับออกจากร่างกาย และคนส่วนใหญ่จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ การศึกษาล่าสุดศึกษาว่าเหตุใดผู้คนบางคนจึงป่วยในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่ป่วย และเหตุใดอนุภาคแกโดลิเนียมจึงหลุดออกจากโมเลกุลอื่นในสารทึบรังสี”

อีกทั้ง “จากการศึกษาพบว่า “กรดออกซาลิก” ซึ่งพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น มะเขือเทศ ผักโขม ถั่ว และผลเบอร์รี่ จะก่อตัวในร่างกายเมื่อผู้คนทานอาหารหรืออาหารเสริมที่ประกอบด้วยวิตามินซี และ ‘กรดออกซาลิก’ นี้จะทำให้ ‘แกโดลิเนียม’ ตกตะกอนจากสารทึบแสงและก่อตัวเป็นอนุภาคนาโนที่แทรกซึมเข้าสู่เซลล์ของอวัยวะต่างๆ จนทำให้เกิด Nephrogenic Systemic Fibrosis (NSF) หรือ พังผืดระบบทั่วร่างจากไต ซึ่งเป็นภาวะที่หายาก ส่งผลให้ผิวหนัง หัวใจ และปอดหนาขึ้นและแข็งขึ้น ส่งผลให้ข้อหดตัวและเกิดความเจ็บปวด นักวิจัยเสนอแนะวิธีการลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการสแกน MRI โดยไม่ควรทานวิตามินซีหากจำเป็นต้องทำ MRI พร้อมสารทึบรังสี”

อย่างไรก็ตาม “ข้อมูลทั้งหมดที่หมอหมูนำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน และได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้นจึงขอเรียนทุกท่านว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของหมอหมู และควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง” หมอหมู กล่าว

ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์