การสร้าง Branding ของเมือง กำลังเป็นที่สนใจของนักพัฒนาเมืองทั่วโลก นอกจากจะใช้ 1. เน้น Soft Power ที่เป็นศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามแล้ว จะต้อง 2. ใส่เทคโนโลยีของ Smart City เข้าไป ผู้คนและนักท่องเที่ยวต้องสะดวก และง่ายในการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการเดินทาง การบริการ การสาธารณสุข การสันทนาการ และการใช้ชีวิตด้วยระบบดิจิทัล และที่สำคัญ 3. จะต้องเป็นเมืองที่โดดเด่นเรื่องความยั่งยืน สะท้อนความเท่าเทียม เคารพความหลากหลาย และเป็นเมืองที่ปลดปล่อยคาร์บอนต่ำ เป็นเมืองที่ผู้คนและธรรมชาติอยู่ใกล้ชิดกัน มีพื้นที่สีเขียวที่สมบูรณ์ส่งเสริมการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ทั้งหมดนี้ต้องการ “นักออกแบบ”
เมืองสำคัญทั่วโลก กำลังถูกออกแบบใหม่ ให้สอดคล้องกับปัจจัยสำคัญทั้ง 3 นี้
การพัฒนาเมืองแห่งอนาคต จะต้องออกแบบ 2 สิ่งนี้ไปพร้อม ๆ กัน
1.การเติมสีสัน เทคโนโลยี และความยั่งยืน ให้กับเมืองอนุรักษ์เดิม จะเห็นตัวอย่างจากเมืองชั้นนำในยุโรปเช่น ลอนดอน บาเซโลนา โคเปนเฮเกน ที่เป็นเมืองอนุรักษ์ มี Soft Power ที่ดึงดูดผู้คนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมืองเหล่านั้นจะเติม Smart Technology เข้าไป เพิ่มดิจิทัลแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลการสื่อสาร การบริการ และการเดินทาง ให้ง่าย สะดวก และประหยัด ในหลาย ๆ เมืองจะรื้อผังเมืองใหม่ ลดพื้นที่ถนนคอนกรีตสำหรับรถยนต์และการขนส่ง เปลี่ยนเป็นพื้นที่ทางเดิน ทางจักรยาน และพื้นที่สีเขียว โดยเพิ่มสวนทั้งแนวตั้ง แนวนอน และบนดาดฟ้า แม้แต่สวนผักผลไม้รอบบ้าน เมืองจะเป็นมิตรกับผู้คนมากขึ้น รวมถึงจะเร่งติดตั้งพลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ในอาคารต่าง ๆ หรือแม้แต่สร้าง Solar Farm ในพื้นที่รกร้าง เพื่อให้เป็นเมือง Net Zero
2.หาพื้นที่ใหม่ ๆ มาพัฒนาเขตสร้างสรรค์สำหรับอนาคต เป็นเขตนวัตกรรม เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นเมืองที่อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืนและเป็นเมืองที่มีทุกอย่างที่ผู้คนต้องการในระยะเดิน 15 นาที การออกแบบพื้นที่ในเมืองใหม่นี้จะใช้การออกแบบที่มีเกณฑ์ความยั่งยืนเป็นตัวนำ แนวคิดแบบนี้จะเห็นได้จากตัวอย่างของประเทศสิงคโปร์ ที่จะต้องพัฒนาพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดผู้คนทั่วโลกมาลงทุน มาทำงาน เพิ่มโอกาสการจ้างงาน และหารายได้ให้กับผู้คนในท้องถิ่น ลองดูโครงการใหม่ทางเขตตะวันตกของสิงคโปร์ที่กำลังพัฒนา พื้นที่ Jurong จูร่ง ให้เป็น 1. Jurong Innovative District เขตพื้นที่นวัตกรรม ที่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ ๆ สำหรับอนาคต เป็นอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ใช้วัตถุดิบหมุนเวียน พลังงานทั้งหมดเป็นพลังงานสะอาด มีระบบการจัดการพลังงาน น้ำ และขยะอย่างยั่งยืน แถมยังมีพื้นที่ทดลอง Sandbox ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุน มาร่วมงานกับนวัตกร และนักธุรกิจ Start Up ด้วยการสนับสนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยนันยางที่อยู่ไม่ไกล และ 2. Jurong Lake District เป็นเขตชุมชนยั่งยืน ที่เป็นพื้นที่ Mix Use มีทั้งกลุ่มอาคารสำนักงาน กลุ่มอาคารที่อยู่อาศัย สถานศึกษา ศูนย์การค้าและสถานบันเทิง ศูนย์ประชุมและการแสดง ทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยสวนสาธารณะ และทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่สีเขียวเชื่อมโยงกับทุกอาคารทั้งแนวตั้ง และแนวนอน รวมทั้งดาดฟ้า อาคารทั้งหมดจะเป็นอาคารเขียว มีมาตรฐานความยั่งยืนสูงสุดเป็นต้นแบบ เขตชุมชนนี้จะให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะคนชราที่จะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การออกแบบต่าง ๆ จะเน้น UD Universal Design เพื่อความปลอดภัย และสะดวกแก่คนชราและผู้พิการ เขตชุมชนใหม่นี้จะเต็มไปด้วย Smart Technology ที่ช่วยให้ผู้คนสะดวกสบาย และประหยัดขึ้น รวมถึงสามารถเชื่อมโยงกับใจกลางเมืองเก่าด้วยระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกและรวดเร็ว
ผู้บริหารเมืองสำคัญทั่วโลก กำลังระดมสถาปนิก นักออกแบบ มาแข่งขันกันวาดฝันเมืองแห่งอนาคต เมืองต้นแบบความยั่งยืน ประเทศไทยของเรา มีเมืองใหญ่ ๆ ที่อยู่ในใจของผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ และอื่น ๆ เราได้ชวนสถาปนิก นักออกแบบ ชื่อดังของไทยมาระดมสมอง ร่างภาพฝันของเมืองในอนาคต ที่จะสามารถสู้กับเพื่อนบ้าน เพิ่มความสามารถการแข่งขัน กันบ้างหรือยัง.
